วางแผนเที่ยวยุโรปแบบชิค ๆ ไม่ต้องง้อทัวร์ก็ไปได้

สำหรับสายเที่ยวเอง การเดินทางเที่ยวยุโรปให้ราบรื่นและไร้กังวลได้นั้น ผู้เดินทางจะต้องมีการวางแผนทุกเรื่องเอาไว้ก่อน ไม่ว่าจะเรื่องของประเทศที่จะไป สถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหาร วิธีการเดินทาง ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ และที่ขาดไม่ได้ คือ ประกันการเดินทางต่างประเทศ เพราะนอกจากจะช่วยให้ทุกท่านอุ่นใจกับทุกการเดินทางท่องเที่ยวในยุโรปเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังจำเป็นที่จะต้องใช้ในการขอเชงเก้นวีซ่าอีกด้วย
  การวางแผนท่องเที่ยวยุโรปให้สนุกได้ โดยไม่ต้องง้อทัวร์ จะต้องมีการเตรียมตัวอย่างไรบ้าง คงจะเป็นคำถามที่หลายคนสงสัย โดยเบื้องต้นสิ่งที่ต้องรู้และเตรียมตัว คือ
 

1. เลือกประเทศในยุโรปที่ต้องการไป

แน่นอนว่าการจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ไหนก็ตาม จุดหมายปลายทางเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องกำหนดขึ้นมาก่อน โดยเฉพาะในยุโรปที่มีหลายประเทศที่น่าไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นแนวการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ พิพิธภัณฑ์ สถาปัตยกรรมต่าง ๆ หรือจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติก็มีให้เลือกมากมาย ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำ คือ เลือกประเทศในยุโรปจากโซนที่ต้องการไป คือ
 

• ยุโรปตะวันตก: เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเมืองใหญ่ มีความทันสมัย เน้นเที่ยวชมวัฒนธรรม สถาปัตยกรรมสมัยใหม่ พิพิธภัณฑ์ หอศิลป์ ชอบไปแหล่งชอปปิง ร้านอาหาร และสถานบันเทิง เป็นโซนที่วัฒนธรรมมีความหลากหลาย ภาษาหลักส่วนใหญ่ คือ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และภาษาสเปน ส่วนประเทศยอดนิยมในโซนนี้คือ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี สวิตเซอร์แลนด์ ไอซ์แลนด์ ออสเตรีย และสเปน
• ยุโรปตะวันออก: เหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบเมืองเก่า ปราสาท ธรรมชาติ ทะเลสาบ ภูเขา เที่ยวชมวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม ภาษาหลัก คือ ภาษารัสเซีย และค่าครองชีพจะต่ำกว่ายุโรปตะวันออก ประเทศยอดนิยมในโซนนี้คือ รัสเซีย โปแลนด์ สาธารณรัฐเช็ก ฮังการี บัลแกเรีย สวีเดน ฟินแลนด์ และโครเอเชีย

หลังจากตั้งธงได้แล้วว่า จะไปท่องเที่ยวในยุโรปโซนตะวันตกหรือตะวันออก เพื่อลดเวลาที่จะใช้เดินทางระหว่างสถานที่ต่าง ๆ ควรเลือกเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในประเทศที่อยู่ในแถบภูมิภาคเดียวกัน ซึ่งแต่ละประเทศในแต่ละภูมิภาคจะมีสถานที่น่าสนใจ เช่น
 
ยุโรปตะวันตก:

• ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
  • Alps, Lake Geneva, Rhine Falls และ Aletsch Glacier (สวิตเซอร์แลนด์)
  • Gullfoss Waterfall (ไอซ์แลนด์)
  • Hallstatt Lake, Dachsteingebirge และ Grossglockner High Alpine Road (ออสเตรีย)


• ท่องเที่ยวชมประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์
  • Louvre Museum และ Palace of Versailles (ฝรั่งเศส)
  • Colosseum, Leaning Tower of Pisa และ St. Peter's Basilica (อิตาลี)
  • Brandenburg Gate, Berlin Wall และ Neuschwanstein Castle (เยอรมนี)
  • Buckingham Palace (สหราชอาณาจักร)


• ท่องเที่ยวด้วยชอปปิงด้วย
  • Oxford Street และ Harrods (สหราชอาณาจักร)  
  • Champs-Élysées และ Galeries Lafayette (ฝรั่งเศส)
  • Kurfürstendamm Road และ KaDeWe (เยอรมนี)
  • Via Monte Napoleone Road (อิตาลี)


• ท่องเที่ยวล่าแสงเหนือ
  • Lofoten Islands, Tromsø และ Svalbard (นอร์เวย์)
  • Iceland

ยุโรปตะวันออก:

• ท่องเที่ยวชมเมืองทั่วไป
  • Prague และ Český Krumlov (สาธารณรัฐเช็ก)
  • Budapest (ฮังการี)
  • Kraków และ Warsaw (โปแลนด์)
  • Dubrovnik และ Split (โครเอเชีย)


• ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ
  • Krkonoše National Park และ Moravian Karst National Park (สาธารณรัฐเช็ก)
  • Lake Balaton, Aggteleki Karst és Szlovák Karst และ Slovenský kras (ฮังการี)
  • Tatra Mountains และ Białowieża Forest (โปแลนด์)
  • Lake Bled และ Postojna Cave (สโลวีเนีย)


• ท่องเที่ยวชมประวัติศาสตร์และพิพิธภัณฑ์
  • Red Square และ Saint Basil's Cathedral (รัสเซีย)
  • Old Town Krakow, Auschwitz-Birkenau Memorial and Museum และ Royal Castel Warsaw (โปแลนด์)
  • Prague Castle และ Charles Bridge (สาธารณรัฐเช็ก)
  • Hungarian Parliament Building, Buda Castle และ Széchenyi Baths (ฮังการี)
  • Diocletian's Palace และ Dubrovnik Old Town (โครเอเชีย)


• ท่องเที่ยวด้วยชอปปิงด้วย
  • Galeria Krakowska (โปแลนด์)
  • Parizska Street และ Palladium Shopping Mall (สาธารณรัฐเช็ก)
  • Andrássy út และ WestEnd City Center (ฮังการี)
  • Ilica Street และ City Center One West (โครเอเชีย)


• ท่องเที่ยวล่าแสงเหนือ
  • Abisko และ Kiruna (สวีเดน)
  • Rovaniemi และLapland (ฟินแลนด์)

นอกจากสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ ที่กล่าวไปแล้ว สำหรับใครที่ไม่อยากไปเที่ยวยุโรปแบบซ้ำกับคนอื่น ตุรกีและจอร์เจียก็อาจจะตอบโจทย์ เนื่องจากเป็นประเทศที่อยู่ติดกัน ทำให้ลดเวลาในการเดินทางท่องเที่ยวลงได้ โดยสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของทั้ง 2 ประเทศมีดังนี้

• ตุรกี: Cappadocia, Pamukkale, Istanbul, Ephesus and Mediterranean Coast
• จอร์เจีย: Tbilisi, Mtskheta, Kakheti, Caucasus Mountains และ Black Sea

 

2. เลือกช่วงเวลาที่ต้องการเที่ยว

ยุโรปเป็นทวีปที่มีฤดูกาลด้วยกันถึง 4 ฤดู ประกอบด้วย ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ผลิ ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ซึ่งแต่ละฤดูกาลก็มีสภาพอากาศที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ดังนั้นการศึกษาความเหมาะสมในการท่องเที่ยวในแต่ละฤดูกาลจึงเป็นเรื่องสำคัญ

• ฤดูใบไม้ผลิ จะอยู่ช่วงระหว่างปลายเดือนมีนาคมถึงกลางเดือนกรกฎาคม เป็นช่วงเวลาที่มีแสงแดดอบอุ่น อากาศกำลังดี พร้อมดอกไม้ออกดอกสวยงามที่ทำให้ทิวทัศน์สวยงามมากยิ่งขึ้น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 8 - 15 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้ยังมีนักท่องเที่ยวมาเยือนยุโรปไม่เยอะมากนัก เมืองน่าสนใจ คือ เมืองที่มีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ เช่น London, Paris และ Amsterdam หรือเมืองที่มีทุ่งดอกไม้ป่า เช่น Keukenhof ที่เมือง Lisse เนเธอแลนด์ หรือ Poppy Field ที่ Tuscany อิตาลี เป็นต้น
• ฤดูร้อน จะอยู่ช่วงระหว่างกลางเดือนกรกฎาคมถึงกลางเดือนกันยายน เป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีแสงแดดจัด และเมื่อเทียบกับฤดูกาลอื่น ๆ จะมีช่วงเวลากลางวันที่ยาวนานกว่ากลางคืน ทุกสถานที่จะเริ่มมีพื้นที่สีเขียว ดอกไม้กำลังบานเต็มที่ มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 18 - 25 องศาเซลเซียส ในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเพราะมีเวลาเที่ยวในตอนกลางวันเพิ่มมากขึ้น อากาศอบอุ่นเหมาะแก่การท่องเที่ยวชมเมือง มีเทศกาลต่าง ๆ ให้เที่ยวมากมาย เมืองที่น่าสนใจ ได้แก่ เมืองที่มีชายหาด เช่น Barcelona (สเปน) และ Rome (อิตาลี) หรือเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ เช่น Rome (อิตาลี), Prague (สาธารณรัฐเช็ก) และ Vienna (ออสเตรีย) หรือไปชมทุ่งลาเวนเดอร์ ที่ Provence (ฝรั่งเศส) หรือเมือง Cotswold (อังกฤษ) เป็นต้น
• ฤดูใบไม้ร่วง จะอยู่ช่วงระหว่างปลายเดือนกันยายนถึงปลายเดือนพฤศจิกายน เป็นช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนเป็นสีส้มและสีแดง และมีผลไม้อร่อย ๆ ให้เลือกชิมมากมาย เช่น แอปเปิล แพร์ องุ่น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 12 - 20 องศาเซลเซียส ช่วงกลางวันค่อย ๆ เริ่มสั้นลง ในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะกับการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ การเดินป่า เพราะอากาศเริ่มเย็นขึ้น เมืองที่น่าสนใจ ได้แก่ เมืองที่มีป่าไม้ เช่น Berlin (เยอรมนี), Zurich (สวิตเซอร์แลนด์) และ Budapest (ฮังการี) หรือเมืองที่มีวิวทิวทัศน์สวยงาม เช่น Interlaken (สวิตเซอร์แลนด์), Salzburg และ Hallstatt (ออสเตรีย) เป็นต้น
• ฤดูหนาว จะอยู่ช่วงระหว่างต้นเดือนธันวาคมถึงต้นเดือนมีนาคม เป็นช่วงเวลาที่มีอากาศหนาวเย็น มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -5 ถึง 10 องศาเซลเซียส และเป็นฤดูกาลของหิมะตก เหมาะแก่ผู้ที่ต้องการเล่นสกี ในช่วงฤดูกาลนี้จะเริ่มเข้าสู่บรรยากาศของความรื่นเริงของเทศกาลคริสต์มาส มีการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ พร้อมประดับไฟสวยงาม เมืองที่น่าสนใจ ได้แก่ เมืองที่มีหิมะตก เช่น Innsbruck, Salzburg (ออสเตรีย) และ Zermatt (สวิตเซอร์แลนด์) และเมืองที่มีตลาดคริสต์มาส เช่น ตลาดคริสต์มาส Cologne Cathedral (เยอรมนี), ตลาดคริสต์มาส Christkindelsmärik เมือง Strasbourg (ฝรั่งเศส) และหมู่บ้านซานตาคลอส เมือง Rovaniemi, Lapland (ฟินแลนด์) เป็นต้น

 

3. เตรียมเอกสารสำคัญที่จำเป็น

การเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศนั้นจำเป็นจะต้องเตรียมเอกสารสำคัญหลายอย่าง เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเดินทางระหว่างประเทศ เช่น

• ขอวีซ่าสำหรับเดินทางท่องเที่ยวยุโรป เนื่องจากประเทศในแถบยุโรปส่วนมาก ผู้ที่เดินทางเข้าประเทศจะต้องขอวีซ่าเชงเก้น (Schengen Visa) ยกเว้นใครที่อยากไปเที่ยวอังกฤษด้วย จะต้องขอวีซ่าแยกต่างหาก เพื่อใช้สำหรับเดินทางเข้าประเทศ แต่ยุโรปบางประเทศก็ใจดี ให้คนไทยเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ดังนั้นจึงต้องวางแผนท่องเที่ยวให้ดี
• พาสปอร์ตที่ใช้ในการเดินทางเที่ยวยุโรป ต้องมีอายุการใช้งานเหลืออย่างน้อย 6 เดือน
• เตรียมตั๋วเครื่องบิน ที่พัก และแผนการเดินทาง แนะนำให้มีสำเนาติดตัว 1 ชุด และบันทึกไว้ในโทรศัพท์มือถือ เผื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น จะได้มีเอกสารแสดงแก่เจ้าหน้าที่

      สำหรับการเดินทางท่องเที่ยวยุโรปเอง หลังจากจองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน แพลนเรื่องร้านอาหารแต่ละมื้อแล้ว ต้องไม่ลืมวางแผนเรื่องการเงินในการไปเที่ยวต่างประเทศด้วย เพราะบางประเทศอาจจะใช้สกุลเงินที่ไม่เหมือนกัน และการพกเงินสดจำนวนมากไปเที่ยวในสมัยนี้อาจจะไม่ค่อยปลอดภัยเหมือนสมัยก่อน ซึ่งถ้าหากคุณมี Krungsri Boarding Card ก็สามารถเที่ยวได้อย่างสบายใจ เพราะเรทเงินถูกมาก แลกไว้ล่วงหน้าได้ถึง 16 สกุลเงิน ขณะเดินทางถ้าเงินที่เตรียมไว้ไม่พอ ก็แลกได้ทันที หรือจะไปกดเงินสดที่ตู้ ATM ก็สามารถทำได้ แถมเวลารูดซื้อของไม่โดนชาร์จเพิ่ม 2.5% จะซื้อกระเป๋าแบรนด์ก็ฟิน ได้ราคาที่สบายใจ สบายกระเป๋า แถมยังสามารถแลกได้หลายสกุลเงินอีกด้วย สำหรับใครที่มี Transit ก็สบายใจได้ ไม่ต้องกังวลว่าไม่ได้แลกเงินมา หากอยากชอประหว่างรอขึ้นเครื่องก็ใช้บัตรนี้ได้เลย

สำหรับใครที่สนใจอยากได้บัตรนี้ไปใช้ระหว่างเดินทางท่องเที่ยวยุโรป ช่วงนี้สามารถสมัครผ่าน KMA krungsri app ได้ฟรี ไม่มีค่าธรรมเนียม บัตรส่งถึงบ้านภายใน 7 วัน สมัครและเปิดใช้งานบัตรรับฟรี Starbucks e-Coupon 100 บาทผ่าน KMA Krungsri App และยังมีโปรโมชันมากมายที่จะทำให้คุณฟินเมื่อมีบัตรนี้
      การจะเดินทางไปท่องเที่ยวยุโรปเอง จำเป็นจะต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุม เพื่อให้การเดินทางเป็นไปด้วยความราบรื่น สนุกสนานตามที่คาดหวังไว้ และไม่เสียเวลาในการท่องเที่ยวโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะหากทริปนั้นมีเวลาในการท่องเที่ยวที่จำกัด ซึ่งการวางแผนเที่ยวยุโรปนั้น แม้จะมีรายละเอียดเยอะอยู่สักหน่อย แต่ใคร ๆ ก็สามารถวางแผนเที่ยวยุโรปได้ หากทำตามที่เราแนะนำ

1. สำรวจราคาตั๋วเครื่องบิน เพื่อให้ได้สายการบินและราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณของแผนการเดินทาง
2. กำหนดสถานที่ท่องเที่ยวยุโรป และศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ที่ต้องการไป เพื่อดูช่วงเวลาที่เหมาะสม และไฮไลท์ต่าง ๆ ที่ต้องไป
3. ศึกษาเส้นทางการเดินทางภายในประเทศที่จะเดินทางไป เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในกรณีที่ต้องมีการเดินทางหลาย ๆ ประเทศในยุโรป
4. จองที่พักใกล้ ๆ กับสถานที่ท่องเที่ยว ที่ต้องการไปเยือน เพื่อลดการเสียเวลาในการเดินทางลง และทำให้มีเวลาเหลือในการเที่ยวชมสถานที่นั้น ๆ มากขึ้น
5. หาข้อมูลร้านอาหารต่าง ๆ ที่ต้องการ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเมื่อเดินทางไปเที่ยวยุโรป โดยอาจจะทำเป็นเส้นทางประกบไปกับสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ด้วยเลย
6. ซื้อเสื้อผ้า ของใช้ที่จำเป็น จัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อม ควรมีลิสต์รายการสิ่งของที่ต้องเตรียมไป แทนการนั่งนึกไปจัดไป เพื่อป้องกันการลืม และควรจัดสิ่งของต่าง ๆ ให้ครบก่อนเดินทางอย่างน้อย 15-30 วัน
7. วางแผนแลกเงินสกุลต่างประเทศ สำหรับใช้ในแต่ละประเทศที่ต้องการไปแต่เนิ่น ๆ เพื่อให้ได้อัตราแลกเปลี่ยนที่ดี ที่สำคัญแลกเงินผ่าน Krungsri Boarding Card สามารถล็อกเรทถูกได้ตามใจ ล่วงหน้านานถึง 15 วัน
8. ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมากต่อการวางแผนเที่ยวยุโรป เพราะการมีประกันการเดินทางจะช่วยให้อุ่นใจอย่างมากเวลาที่ต้องเดินทางไปต่างบ้านต่างเมือง ควรเลือกประกันที่คุ้มครองทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าเสียหาย รวมถึงประกันชีวิตด้วย

อุ่นใจมากขึ้นทุกการเดินทาง หมดกังวลหากต้องเจอเรื่องไม่คาดฝันขณะท่องเที่ยวยุโรป เช่น ไม่สบาย หรือประสบอุบัติเหตุ เป็นต้น หากซื้อกรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure ติดตัวไว้ ก็จะได้รับความคุ้มครอง* ทั้งก่อน ขณะเดินทาง และหลังเดินทางเลยทีเดียว

• ก่อนเดินทาง สำหรับใครที่ไปกับทัวร์ ไม่ต้องห่วง ประกันดูแลให้ถ้าถูกบริษัททัวร์โกง
• ระหว่างเดินทาง เจ็บป่วย อุบัติเหตุ ประกันดูแลค่าใช้จ่ายให้
• หลังเดินทาง ประกันก็ชดเชยให้ หากทรัพย์สินในบ้านสูญเสีย หรือเสียหายระหว่างไปเที่ยว

คุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท เบี้ยถูกเริ่มต้นเพียง 250 บาท สมัครง่ายคุ้มครองทันที สมัครได้เลยที่นี่ สำหรับใครที่เดินทางบ่อย แบบรายปีก็มีให้ซื้อเช่นกัน

สำหรับทุกท่านที่อยากเดินทางไปเที่ยวยุโรปด้วยตัวเอง มั่นใจได้เลยว่า หากมีการวางแผนที่ดีเพียงพอ ไม่ว่าจะไปเที่ยวประเทศไหน ก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาทันที และพิเศษสำหรับลูกค้า KRUNGSRI PRIME ที่สนใจสอบถามสิทธิประโยชน์อื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ได้เช่นกัน

*เงื่อนไขเป็นไปตามข้อกำหนดในกรมธรรม์
กรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure รับประกันภัยโดย บริษัท ซมโปะ ประกันภัย (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)