เก็บเงินให้ถูกที่ มีชัยไปกว่าครึ่ง

การเก็บเงินเป็นสิ่งสำคัญ แต่ในปัจจุบันการเก็บเงินให้ถูกที่อาจมีความสำคัญยิ่งกว่า ไม่ว่าจะด้วยการเปลี่ยนแปลงของอัตราเงินเฟ้อ ความสามารถในการบริหารจัดการทางการเงินรวมถึงโอกาสทางการลงทุนที่เปิดกว้างทำให้ตัวเลือกการเก็บเงินมีความหลากหลายมากขึ้น แล้วมีปัจจัยใดบ้างที่ควรรู้สำหรับการเก็บเงิน บทความนี้มีคำตอบให้กับคุณ
 

ต่อยอดเงินล้านให้คุ้มค่าด้วยการเก็บเงินที่มีคุณภาพ

จะทำอย่างไรดีถ้ามีเงินล้าน?

รู้หรือไม่ว่า ในปัจจุบันมูลค่าของเงินล้านนั้นไม่ได้เทียบเท่าสมัยก่อนอีกต่อไป ปริมาณเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้น 3-5% ต่อปีส่งผลให้มูลค่าของเงินในมือคุณลดลงเรื่อยๆ สวนทางกับดอกเบี้ยธนาคารในปัจจุบันที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากราว 0.3% เท่านั้น เท่ากับว่าถ้าคุณไม่ปรับตัว มูลค่าเงินล้านของคุณจะลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในไทยแต่เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก

เงินล้านจึงไม่ใช่จุดสูงสุดแต่เป็น “จุดเริ่มต้นสำคัญ” ในการบริหารจัดการเงิน สิ่งที่คุณควรทำไม่ใช่การใช้เงินล้านให้หมดไป แต่เป็นการบริหารจัดการเงินล้านในมืออย่างมีคุณภาพ
   

เก็บเงินที่ไหนดีเมื่อดอกเบี้ยต่ำลงแต่เงินเฟ้อสูงขึ้น

การบริหารจัดการเงินล้าน หมายถึง การมีแหล่งเก็บเงินที่เหมาะสม ซึ่งอาจเป็นการฝากเงิน การลงทุน หรือแม้แต่การทำธุรกิจต่างๆ แต่สำหรับคนที่ยังไม่รู้ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรดี เรามีหลักการเก็บเงินง่ายๆ 3 ประการมาฝาก ได้แก่
 

1. สถานที่เก็บเงินต้องมีความมั่นคง ความมั่นคงในที่นี้มีตั้งแต่ความปลอดภัยในการเก็บเงิน ความเสี่ยงที่เงินดังกล่าวจะถูกนำไปใช้ หรือแม้แต่ความน่าเชื่อถือของสถานที่เก็บเงิน การเก็บเงินที่ดีควรฝากหรือลงทุนในสถานที่ที่มีเครดิตและความน่าเชื่อถือสูง เช่น ธนาคารและสถาบันการเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่าเงินคุณจะไม่หายไปไหนแน่ๆ

 

2. เงินเก็บนั้นต้องงอกเงยได้อย่างมีคุณภาพ เพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ 3-5% ต่อปี การเก็บเงินที่ดีจึงต้องช่วยให้เงินงอกเงยขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ซึ่งในบางครั้งการฝากเงินอาจไม่ตอบโจทย์เท่าที่คาดหวังไว้ เราจึงขอแนะนำให้กระจายเงินลงทุนในกองทุนที่มีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่า 3-5% ต่อปี เพื่อให้เงินเก็บของคุณสามารถชนะเงินเฟ้อได้
   
   เช่น หากมีเงินเก็บ 1 ล้านบาท อาจแบ่งออกเป็น 4 ส่วนใหญ่เพื่อการกระจายความเสี่ยงที่พอดีดังนี้
   • ฝากออมทรัพย์เพื่อกรณีฉุกเฉิน 100,000 บาท (อัตราดอกเบี้ย 0.3%)
   • ลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 200,000 บาท (ผลตอบแทนที่คาดหวัง 1%)
   • ลงทุนในกองทุนผสม 350,000 บาท (ผลตอบแทนที่คาดหวัง 4%)
   • ลงทุนในกองทุนตราสารทุน 350,000 บาท (ผลตอบแทนที่คาดหวัง 8%)
   
   เพียงเท่านี้คุณก็สามารถทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาเหนือกว่าการฝากเงินทั่วไป รวมถึงมีโอกาสที่จะชนะเงินเฟ้อได้ในอนาคตอีกด้วย ซึ่งคุณสามารถวางแผนการเงินอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่เครื่องมือวางแผนทางการเงินจากกรุงศรีเพื่อการวางแผนที่ดียิ่งขึ้น

 

3. ได้รับประโยชน์อื่นๆ จากการเก็บเงิน การฝากเงินและการลงทุนเป็นสิ่งที่ธนาคารหลายแห่งมีเหมือนกัน ดังนั้น เราอาจต้องพิจารณาแง่มุมอื่นๆ ที่ให้ผลตอบแทนเรามากกว่าเงิน เช่น ความสะดวกสบาย ความรู้ การเป็นลูกค้าคนพิเศษ หรือแม้แต่ความสัมพันธ์ที่ดีกับทางธนาคาร

 

“สิทธิประโยชน์” ความคุ้มค่าที่ควรคำนึงจากการเก็บเงินในอนาคต

การเก็บเงินในทุกธนาคารมักมีดอกเบี้ยที่เป็นผลตอบแทนใกล้เคียงกัน แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่แตกต่างจริงๆ คือสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ได้รับ

การได้รับสิทธิประโยชน์ถือเป็นหนึ่งในผลกำไรที่ได้จากการเก็บเงินให้ถูกที่ซึ่งหลายครั้งก่อให้เกิดความคุ้มค่ามากกว่าตัวเงิน สิทธิประโยชน์ดังกล่าวอาจมาได้ในรูปแบบส่วนลด สิทธิพิเศษในสินค้าและบริการต่างๆ ไปจนถึงคอร์สสัมมนาที่อาจสร้างมูลค่าจากความรู้ความเข้าใจใหม่ๆ ได้ในอนาคต