น้องๆ คงรู้กันอยู่แล้วว่า "เงินทองเป็นของหายาก" ควรใช้สอยอย่างประหยัด ยิ่งเดี๋ยวนี้ แค่ประหยัดอย่างเดียวคงจะไม่พอ เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆ สูงขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นน้องๆ จึงต้องรู้จักบริหารจัดการให้เงินงอกเงยด้วย เงินที่น้องๆ มี ไม่ว่าจะมาจากเงินค่าขนมที่ผู้ปกครองให้ หรือรายได้จากการทำงานพิเศษ พี่ขอแนะนำให้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ และอีกส่วนเก็บออมไว้ เพื่อใช้เป็นประโยชน์ในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นสำหรับเหตุฉุกเฉิน เช่น สำหรับน้องๆ ที่จากบ้านมาอยู่เอง หากที่บ้านส่งเงินมาไม่ทัน จะได้มีเงินสำรองเอาไว้ใช้ หรือเพื่อซื้อของขวัญให้พ่อแม่ หรือของใช้อื่นๆ ที่ต้องการโดยไม่ต้องก่อหนี้ และสำหรับน้องๆ ที่ฝันอยากเป็นเจ้าของกิจการ เงินออมในวันนี้ เป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองในวันข้างหน้า
โดยจำนวนเงินที่น้องๆ แต่ละคนเก็บหอมรอมริบได้นั้นก็จะแตกต่างกันไปตามรายรับ-รายจ่ายของแต่ละคน อย่างไรก็ตาม การเก็บเงินได้มากหรือน้อยนั้นไม่สำคัญเท่ากับการที่น้องๆ ได้ฝึกวินัยในการบริหารจัดการเงินของตัวเอง สร้างวินัยการออมเงิน เพื่ออนาคตทางการเงินที่มั่นคงและมั่งคั่งต่อไป วิธีการจัดการเงินเหล่านี้เราเรียกรวมๆ ว่า "การวางแผนการเงิน"

ทั้งนี้ น้องๆ สามารถไปสู่เป้าหมายทางการเงินที่วางไว้ได้เร็วขึ้น หากรู้จักเลือกวิธีการออม การลงทุนที่เหมาะสม ทางเลือกการออมที่น้องๆ ทุกคนน่าจะรู้จักกันเป็นอย่างดี คือ เงินฝากธนาคาร ซึ่งมีทั้งเงินฝากออมทรัพย์ (ฝาก-ถอนได้ตลอด) และเงินฝากประจำ (มีระยะเวลากำหนดแน่นอน เช่น 3 เดือน 6 เดือน เป็นต้น) ดอกเบี้ยจากเงินฝากปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 0.5-1.5% ต่อปี ซึ่งถือว่าไม่มากนัก หากเราต้องการให้เงินออมของเราเติบโตรวดเร็วและมากขึ้น น้องๆ ต้องมองหาทางเลือกการลงทุนอื่นๆ มาเป็นตัวช่วย

ทางเลือกที่พี่แนะนำ คือ กองทุนรวม ซึ่งเหมาะสมสำหรับน้องๆ นิสิต นักศึกษา ที่เวลาส่วนใหญ่ใช้ไปกับการเรียน การสอบ ไม่มีเวลาหรือโอกาสติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการลงทุนมากนัก ทั้งนี้ เพราะกองทุนรวม……
มี “มืออาชีพ”
คือ ผู้จัดการกองทุนที่มีข้อมูล ความรู้ ความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ คอยดูแลการลงทุนให้
ใช้เงินลงทุนไม่มาก
เริ่มต้นเพียง 1,000 บาทเท่านั้น
มีกองทุนให้เลือกสรรมากมายหลายประเภท
ที่เหมาะกับความต้องการและวัตถุประสงค์ของเรา
แม้ว่าการลงทุนจะช่วยให้เงินออมของน้องๆ งอกเงยมากขึ้น แต่แน่นอนว่าไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ โอกาสสร้างผลกำไรก็จะมาพร้อมกับความเสี่ยง หรือความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน (High risk, high return) ปีนี้เราอาจจะลงทุนได้กำไร 5% ปีหน้าได้ 8% ปีถัดไปอาจขาดทุน -10% ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกลงทุนในอะไร แต่ครั้นจะไม่ลงทุนเลย ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน คือ ความเสี่ยงที่จะไปไม่ถึงเป้าหมาย หรือความเสี่ยงที่ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นในขณะที่รายรับเท่าเดิม ดังนั้น สิ่งที่สำคัญคือการเลือกลงทุนให้เหมาะสมกับตัวเอง และเลือกลงทุนให้หลากหลาย เพื่อกระจายความเสี่ยง และรักษาระดับผลตอบแทนให้เพียงพอที่จะนำเราสู่เป้าหมายได้
กองทุนรวมที่เหมาะสำหรับน้องๆ ที่เพิ่งเริ่มต้นลงทุน หรืออยากเปลี่ยนเงินออมให้เป็นเงินลงทุน โดยไม่ต้องรับความเสี่ยงสูง ได้แก่ กองทุน KFSPLUS เป็นกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ระยะสั้นคุณภาพดี แต่ถ้าหากน้องๆ คนไหนเริ่มคุ้นเคยกับการลงทุน และสามารถรับความเสี่ยงได้เพิ่มขึ้น ลงทุนได้นานๆ การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่า กองทุนหุ้นที่เราแนะนำ คือ กองทุน 1AMSET50-RU ซึ่งจะเน้นลงทุนในหุ้นไทยที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET50 โดยมีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนให้สูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) สำหรับกองทุนหุ้นที่ลงทุนในต่างประเทศ ก็คือ กองทุน KFGBRAND ที่ลงทุนหุ้นทัวโลก โดยเลือกลงในบริษัททั่วโลก ที่ประสบความความสำเร็จในการทำธุรกิจ เป็นเจ้าของแบรนด์สินค้าที่มีชื่อเสียง และมีฐานลูกค้าทั่วโลก
กองทุนแนะนำสำหรับน้องๆ นิสิต นักศึกษา
แนะนำให้น้องๆ ศึกษารายละเอียดของแต่ละกองทุนก่อนการลงทุน โดยพิจารณาว่ากองทุนไหนเหมาะสมกับความคาดหวัง และความเสี่ยงของตัวเอง หากมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา หรือ โทรเข้ามาปรึกษาพี่ๆ เจ้าหน้าที่ Plan Your Money ได้ที่ โทร. 1572 กด 5
เมื่อน้องๆ รู้จักวางแผนทางการเงิน และเครื่องมือที่ช่วยในการออมเงินแล้ว ก็อย่ามัวรีรอที่จะหันมาเริ่มเก็บออมเงินเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายทางการเงินที่เราตั้งใจไว้ อีกทั้งการที่น้องๆ เริ่มออมเงินเร็วขึ้นเท่าไหร่ ก็จะทำให้มีระยะเวลาในการออมเงินที่ยาวนานขึ้น และทำให้จำนวนเงินออมต่อเดือนนั้นน้อยลง รู้อย่างนี้แล้วก็ ควรเริ่มต้นออมเงินกันเลย
คำเตือน:
- การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- KFGBRAND มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ผู้จัดการกองทุนอาจเข้าทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินโดยขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของบริษัทจัดการ ซึ่งอาจมีต้นทุนสำหรับการทำธุรกรรมฯ โดยทำให้ผลตอบแทนของกองทุนโดยรวมลดลงจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และในกรณีที่ไม่ได้ทำสัญญาป้องกันความเสี่ยงอัตราแลกเปลี่ยนเงิน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเงินหรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้ ทั้งนี้ โดยปกติกองทุน KFGBRAND จะป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ