คำว่า “ต่อยอดเงิน” คือ การที่เรานำเงินไปออมหรือลงทุนในผลิตภัณฑ์ต่างๆ และได้ผลตอบแทนกลับมาไม่ว่าจะเป็น กำไร ดอกเบี้ย เงินปันผล การต่อยอดเงินไม่จำเป็นต้องมีเงินก้อนใหญ่ มีเพียงหลักร้อยก็สามารถทำได้ และสามารถทยอยสะสมทุกๆ เดือนก็ได้เช่นกัน
ทำงานมาก็มาก เงินออมมันก็มี แต่ของกินของใช้ทุกวันนี้ก็แพงขึ้นเรื่อยๆ ถ้าเก็บไว้กับตัวอย่างเดียวเงินคงไม่เพิ่มไปมากกว่านี้แน่ๆ ...แล้วจะทำยังไงดี บทความนี้มีคำตอบสำหรับวิธีต่อยอดเงินและบางเรื่อง อาจจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่คุณคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
1. เปลี่ยนรูปแบบการฝากเงิน
นี่คือเรื่องแรกที่มักถูกมองข้ามไป และเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวที่สุดด้วย เพราะอัตราดอกเบี้ยของเงินฝากแต่ละประเภทไม่เหมือนกัน และเงื่อนไขเองก็แตกต่างกันด้วย ลองมาดู
เงินฝากแต่ละประเภทมีอะไรบ้างและเหมาะกับตัวเองหรือเปล่า
เงินฝากออมทรัพย์
การฝากออมทรัพย์ถือเป็นการฝากขั้นพื้นฐานที่สุดในบรรดาการฝากทั้งหมด โดยใช้เงินเพื่อเปิดบัญชีเพียง 500 บาทเท่านั้น และผู้ฝากสามารถถอนเงินมาใช้ที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้ แต่เงินฝากประเภทนี้จะมีอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าเงินฝากประเภทอื่น มีความยุ่งยากน้อยเหมาะสำหรับผู้ที่มีการถอนเพื่อใช้จ่ายเป็นประจำ
เงินฝากออมทรัพย์พิเศษ
อีกรูปแบบหนึ่งของการฝากเงินที่หลายคนไม่รู้คือเงินฝากออมทรัพย์พิเศษเงินฝากประเภทนี้จะได้รับดอกเบี้ยที่สูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์ทั่วไป จ่ายดอกเบี้ยทุกเดือนไม่มีการกำหนดระยะเวลาในการฝาก จะฝากจะถอนเมื่อไหร่ก็ได้แต่จะมีเงื่อนไขในการถอน เหมาะสำหรับออมเงินส่วนที่มีการถอนเงินไม่บ่อย เช่น เงินเก็บเพื่อฉุกเฉิน เงินพักเพื่อรอลงทุนต่อในทางเลือกอื่นๆ
เงินฝากประจำ
บัญชีประเภทนี้มีหลายประเภทสามารถแบ่งได้เป็น
- เงินฝากประจำทั่วไป เป็นบัญชีเงินฝากที่ให้ผลตอบเทนสูง มีระยะเวลาให้เลือกได้ตามความเหมาะสม ซึ่งดอกเบี้ยอาจเป็นอัตราคงที่ตลอดระยะเวลา หรืออัตราดอกเบี้ยแบบเพิ่มขึ้น ตามระยะเวลาที่กำหนด มีแบบฝากประจำ 3 เดือน 6 เดือน 12 เดือน และ 36 เดือน เมื่อฝากครบกำหนดจะได้รับดอกเบี้ยตามที่ตกลงไว้ หากเมื่อครบกำหนดแล้วไม่ต้องการใช้เงินก็สามารถฝากต่อไปได้อีก
- เงินฝากประจำปลอดภาษี หรือเงินฝากประจำรายเดือน ใครอยากเก็บเงินก้อนสร้างวินัยให้ตนเองในการเก็บเงินก้อนแนะนำบัญชีนี้เลย เป็นบัญชีเงินฝากที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำและไม่เสียภาษี มีระยะเวลาการฝากเป็นตัวกำหนด เช่นฝาก 2 ปี ( 24 เดือน) ถึง 5 ปี (60 เดือน) โดยจะต้องฝากเงินเป็นจำนวนเท่าๆ กันทุกเดือน ขั้นต่ำในการฝากคือ 500 บาท สูงสุด 25,000 บาท ซึ่งอัตราดอกเบี้ยและระยะเวลาการฝากขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของแต่ละธนาคาร
2. ซื้อพันธบัตรรัฐบาล
การลงทุนในตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาล หรือการซื้อพันธบัตรรัฐบาล สามารถพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือการเข้าเป็นเจ้าหนี้ของรัฐโดยทางรัฐบาลจะนำเงินส่วนนี้ไปลงทุนในเรื่องต่างๆ ตามนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ คมนาคม หรือนโยบายเพื่อสังคมต่างๆ โดยสิ่งที่เราจะได้กลับมาคือดอกเบี้ยซึ่งเป็นดอกเบี้ยที่มีทั้งแบบคงที่และไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่ระบุไว้ในพันธบัตรประเภทนั้นๆ เช่นเดียวกับระยะเวลาการถือครองที่ขึ้นอยู่กับทางรัฐบาลเป็นผู้กำหนดว่าต้องถือครองกี่ปีซึ่งมีตั้งแต่ปีเดียว ไปจนถึงสิบปีเลยทีเดียว
การต่อยอดเงินด้วยพันธบัตรรัฐบาลถือเป็นการลงทุนที่มีความมั่นคงมากพอสมควรเพราะรัฐมีโอกาสเบี้ยวหนี้ค่อนข้างน้อย ทำให้เราวางใจได้ว่าเราจะได้รับเงินต้นและดอกเบี้ยกลับมาตามที่กำหนดไว้
3. ออมในกองทุนรวม
กองทุนรวม คือ การระดมเงินจากนักลงทุนหลายรายมารวมกันให้เป็นเงินก้อนใหญ่และนำเงินก้อนนั้นไปจดทะเบียนเป็น “นิติบุคคล” ผู้จัดการกองทุนจะนำเงินก้อนนั้นไปลงทุนตามนโยบายที่ระบุไว้ในหนังสือชี้ชวน
กองทุนรวมนั้นมีให้เลือกมากมายหลายประเภท มีตั้งแต่ความเสี่ยงต่ำมาก - ความเสี่ยงสูงมากก่อนเริ่มลงทุนต้องทำ
แบบประเมินความเสี่ยง ก่อนเพื่อให้รู้ว่าตนเองเหมาะกับกองทุนประเภทไหน หากประเมินออกมาแล้วรับความเสี่ยงได้ต่ำก็น่าจะเหมาะกับการลงทุนใน
กองทุนรวมตลาดเงิน กองทุนรวมตราสารหนี้ หากประเมินแล้วรับความเสี่ยงได้ปานกลาง - สูง เหมาะกับการลงทุนใน
กองทุนรวมผสม และหากผลประเมินแสดงว่ารับความเสี่ยงได้สูงก็ลงทุนใน
กองทุนรวมตราสารทุนได้และหากต้องการลงทุนเพื่อประหยัดภาษีก็ต้องเลือกกองทุนรวม
LTF หรือ
RMF
กองทุนรวมถือเป็นเครื่องมือในการต่อยอดเงินในอันดับต้นๆ และการลงทุนในกองทุนรวมก็สามารถทำให้มั่นใจได้ในระดับหนึ่งเพราะมีผู้เชี่ยวชาญบริหารจัดการเงินให้เราอีกด้วย
หมายเหตุ: กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) สามารถลงทุนเพื่อใช้สิทธิลดหย่อนภาษีสิ้นสุดปี 2562 เท่านั้น ตั้งแต่ปี 2563-2567
สามารถลงทุนในกองทุนการออมแห่งชาติ (SSF) ลดหย่อนภาษีได้ เงื่อนไขลดหย่อนภาษีตามกรมสรรพากรกำหนด
4. ซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์
นอกจากจะเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงแล้ว
ประกัน คือตัวต่อยอดเงินชั้นดีสำหรับเราๆ โดยเฉพาะประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ ประกันประเภทนี้เป็นแบบผสมผสานระหว่างการออม + ความคุ้มครอง มีระยะเวลาการจ่ายเบี้ยและเงินคืนที่แน่นอน ค่าเบี้ยที่จ่ายสามารถแบ่งจ่ายเป็นรายปี ราย 6 เดือน ราย 3 เดือน และ รายเดือนได้ ซึ่งเราจะต้องจ่ายเบี้ยประกันตามเงื่อนไขที่กำหนด พอครบกำหนดตามสัญญาจะได้เงินคืนตามที่ระบุไว้
ประกันชีวิตนั้นเหมาะสำหรับทุกคนแต่เราจะเลือกทำประกันแบบไหนประเภทอะไร ก็ขึ้นอยู่กับความสะดวกรวมถึงประเภทความคุ้มครองที่ต้องการของแต่ละคน
5. ลงทุนในทองคำ
การลงทุนที่ผู้หลักผู้ใหญ่ในสมัยก่อนชอบ และความชอบนั้นก็สืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน หากเป็นสมัยก่อนราคาทองจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นระยะๆ แต่ในปัจจุบันราคาทองมีความผันผวนสูง จึงเหมาะกับการเก็งกำไรกันเสียมากกว่า
ปัจจัยการขยับของราคาทองคำนั้นมีมากมาย และหลายกลุ่มเชื่อว่าค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลให้ค่าทองขึ้น แต่ก็ไม่เสมอไป ดังนั้นผู้ที่ลงทุนในทองคำนอกจากจะต้องมีการติดตามตลาดอย่างสม่ำเสมอแล้ว ยังต้องสามารถรับความเสี่ยงได้สูงระดับหนึ่งด้วย เพื่อความปลอดภัยในการลงทุน
การลงทุนในทองคำที่ง่ายที่สุดคือการซื้อทองเก็บไว้เพื่อเก็งกำไร ทั้งในรูปแบบทองรูปพรรณและทองคำแท่ง ท่านสามารถติดต่อซื้อทองในร้านทองที่ใกล้ที่สุดได้ในทันที
6. ซื้อขายของเก็งกำไร
เรื่องนี้เราอาจจะต้องตามเทรนด์หน่อยนะครับ กับการซื้อขายของเก็งกำไร เพราะมันครอบคลุมกว้างมาก และในปัจจุบันมีทั้งของที่จับต้องได้ และจับต้องไม่ได้อยู่ในตลาดเต็มไปหมด ทางที่ดีควรเล็งอะไรที่เราอยู่ใน ‘วงการ’ เป็นหลักดีกว่า
![วิธีต่อยอดเงินที่นำไปใช้ได้จริง [ฉบับ Plan Your Money]](/getmedia/ff8ce93e-331a-429a-846d-81ae47891c27/how-to-build-on-your-money-3.jpg.aspx)
ส่วนมากการซื้อขายเก็งกำไรจะเน้นเป็นของสะสมที่มีคุณค่าทางจิตใจเป็นหลักอาจเป็นรูปถ่ายที่มีลายเซนต์ดารา แผ่นเพลงเวอร์ชั่นแรก หรือหนังสือแบบพิมพ์ครั้งแรก ยิ่งเราอยู่ในวงการ หรืออยู่ในกลุ่มการซื้อขายนั้นๆ อยู่แล้ว จะทำให้เราเข้าใจการไหลเวียนของกระแสการเงินในนั้นมากขึ้น สามารถตั้งราคาได้ง่าย และมีความเชื่อถือสูงกว่าคนนอกวงการที่เพิ่งจะเข้าไปติดต่อซื้อขาย
อีกหนึ่งตลาดที่น่าสนใจโดยเฉพาะประเทศไทยคือการเช่าพระเครื่อง, นาฬิกา, ธนบัตรรุ่นเก่า และวัตถุมงคลต่างๆ เพราะไม่ว่าจะผ่านไปกี่ยุคกี่สมัย ราคาพระเครื่องบางรุ่นก็ยังสูง และได้รับความนิยมมาโดยตลอด แม้จะมีกระแสแผ่วไปบ้างตามกาลเวลา แต่โดยรวมมูลค่าเงินที่ไหลเวียนยังคงอยู่ในระดับหมื่นล้านอยู่ดี
แน่นอนว่าวิธีการที่กล่าวมาเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นสำหรับการต่อยอดเงินที่เรามีอยู่ให้งอกงามขึ้นไปได้ และสามารถปรับแต่ง เปลี่ยนแปลงให้เข้ากับแต่ละคน ทั้งเรื่องความแข็งแรงทางการเงิน และความถนัดเฉพาะตัว
แต่ถ้าคุณเพิ่งเริ่มต่อยอดเงิน หรือกำลังคิดลงทุนอยู่แต่ไม่มั่นใจว่าตัวเองมาถูกทางหรือไม่สามารถตรวจสอบและวางแผนผ่านเครื่องคำนวณของเราได้
ที่นี่
การลงทุนก็เหมือนการปลูกต้นไม้ ที่ต้องเลือกต้นไม้ให้เหมาะกับดิน เฝ้าดูแล บำรุงรักษา ท้ายสุดแล้วผลของความพยายามถึงออกดอกออกผลให้ได้อย่างงดงาม