แกะสูตรวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า PIPATCHARA พาแบรนด์โกอินเตอร์
รอบรู้เรื่องธุรกิจ
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

แกะสูตรวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า PIPATCHARA พาแบรนด์โกอินเตอร์

icon-access-time Posted On 31 สิงหาคม 2567
By Krungsri The COACH
สปอตไลต์ทั่วโลก ต่างก็ส่องไปที่แบรนด์ “PIPATCHARA” หลังจากที่มีภาพสุดตราตรึงของตัวแม่ฮอลลีวูดอย่าง แอนน์ แฮทธาเวย์ ถือกระเป๋าถักดีไซน์เก๋ร่วมงานพรมแดง และภาพนักร้องซูเปอร์สตาร์ “ลิซ่า BLACKPINK” สวมชุดสีทองอร่ามในงานปาร์ตี้ ซึ่งนี่คือผลงานที่สร้างสรรค์จากฝีมือชุมชนท้องถิ่นของไทย ก่อเกิดเป็นสินค้าหลักหมื่น-หลักแสนบาท มาดูกันว่า PIPATCHARA มีวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าอย่างไร จึงทำให้คนดังทั่วโลก “ยอมจ่าย” เพื่อให้ได้เป็นเจ้าของ

จุดเริ่มต้นของ PIPATCHARA

จุดเริ่มต้นของ pipatchara

หลังจากที่คุณเพชร-ภิพัชรา แก้วจินดา เรียนจบปริญญาตรีด้านแฟชั่นดีไซน์ ที่ Academy of Art University ประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นนักเรียนทุนที่ École de la Chambre Syndicale de la Couture Parisienne ประเทศฝรั่งเศส ก็ได้มีโอกาสร่วมงานกับแบรนด์ชั้นนำ เช่น Ralph Lauren, Chloé, GIVENCHY, Vanessa Bruno และ JASPAL เรียกว่าได้สั่งสมประสบการณ์อยู่ในวงการแฟชั่นมาอย่างยาวนาน

ต่อมาคุณทับทิม-จิตริณี แก้วจินดา ผู้เป็นพี่สาว ก็ได้นำศิลปะการถักทอจากแดนอาหรับที่เรียกว่า “มาคราเม่” (Macramé) มาแนะนำให้คุณเพชรได้รู้จัก ด้วยความหลงใหลในงาน Art & Craft ทั้งคู่จึงได้ก่อตั้งแบรนด์ร่วมกันในชื่อ PIPATCHARA แบรนด์แฟชั่นโอต์กูตูร์สุดไฮเอนด์

PIPATCHARA ต่างจากแบรนด์อื่นอย่างไร

PIPATCHARA มี Brand Character ที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์คือการนำศาสตร์ “มาคราเม่” ซึ่งเป็นการถักเชือกให้เกิดลวดลายมาผสมผสานกับแฟชั่นร่วมสมัย ต่อยอดสู่สินค้าสุดเก๋อย่างกระเป๋า รองเท้า และเครื่องแต่งกาย ซึ่งทางคุณเพชรเน้นย้ำว่า “งานทุกชิ้นต้องทำด้วยมือ” ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นสินค้าตัวไหนของแบรนด์ก็จะเห็นงานคราฟต์ถักทอสุดประณีตอยู่ในนั้นเสมอ

นอกจากนี้ แม้ว่าจะเป็นงานแฟชั่นไฮเอนด์ แต่ PIPATCHARA ก็วางโพสิชันตัวเองให้อยู่ในระดับราคาที่จับต้องได้ ไม่ได้ตั้งราคาสูงเท่าสินค้าแบรนด์เนมจากต่างประเทศ แต่ก็ไม่ได้ราคาถูกเกินไปจนลดทอนคุณค่าของชิ้นงาน

วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าของแบรนด์ PIPATCHARA

วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าของแบรนด์ pipatchara

ราคาสินค้าของ PIPATCHARA เริ่มต้นตั้งแต่กระเป๋าสตางค์อยู่ที่ราว 5,000 - 6,000 บาท กระเป๋าถือ 9,000 - 50,000 บาท และเสื้อผ้า Ready-to-wear 5,000 - 12,000 บาท ซึ่งถ้าจำหน่ายในต่างประเทศจะสามารถตั้งราคาได้สูงขึ้นไปจนถึงหลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับตลาด การเติบโตของธุรกิจ และคู่แข่งในประเทศนั้น ๆ

PIPATCHARA ไม่ได้มีแค่ Brand Character และดีไซน์สุดจึ้งไม่เหมือนใครเท่านั้น แต่ยังมีวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าที่น่าสนใจอีกด้วย ตัวอย่างเช่น
 

1. เล่าเรื่องแบรนด์ผ่าน Fashion for Community

หัวใจหลักของ PIPATCHARA คือ “Fashion for Community” (แฟชั่นเพื่อชุมชน) โดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับชุมชนในฐานะแบรนด์แฟชั่น ซึ่งทางแบรนด์ได้ออกแบบกระบวนการถักลายมาคราเม่ให้เข้าใจง่ายขึ้น โดยเรียกว่า “ลายครองแครง” และ “ลายตัวหนอน” รวมถึงเข้าไปสอนวิธีการถักให้คนในชุมชนจากชนบทในไทยด้วยตัวเอง จึงช่วยให้คนท้องถิ่นมีทักษะทางอาชีพ สามารถสร้างรายได้และความภาคภูมิใจในตัวเองอีกด้วย ซึ่งนี่ถือเป็นความสำเร็จที่แท้จริงในมุมมองของคุณเพชร
 

2. เน้นใช้วัสดุเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

PIPATCHARA นำพลาสติกรีไซเคิล เช่น ฝาขวดน้ำ กล่องใส่อาหาร ถุงร้อน และช้อนส้อมพลาสติก มาแปรสภาพเป็น “Infinitude” แผ่นพลาสติกรีไซเคิลหลากสีสัน ซึ่งเป็นสีดั้งเดิมของพลาสติกรีไซเคิลที่นำมาแปรรูป จากนั้นก็จะนำไปสร้างสรรค์โพรดักต์ที่ดูไม่ออกเลยว่าทำจากวัสดุรีไซเคิล โดยคุณเพชรและคุณทับทิมได้ศึกษาวิธีการแปรรูป ลองผิดลองถูกร่วมกับทีมงาน นอกจากนี้ยังเลือกบริษัทซัพพลายเออร์ที่มีใบรับรองด้าน Sustainability ว่ามีกระบวนการผลิตที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการเบียดเบียนธรรมชาติให้ได้มากที่สุด
 

3. ไม่ออกสินค้าตามฤดูกาล

อีกหนึ่งวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าของ PIPATCHARA คือมักจะไม่ออกสินค้าตามฤดูกาล เพราะอยากให้คนซื้อไปแล้ว สามารถใช้ได้นาน ๆ ซึ่งทางแบรนด์จะเก็บคำติชมของลูกค้ามาพัฒนาต่อยอดเป็นสินค้าในคอลเลกชันถัดไป นอกจากนี้ยังมีบริการ Customize ที่ให้ลูกค้าสามารถเลือกสีกระเป๋า สีเชือก และรูปแบบการถักได้ตามใจชอบ แม้จะแลกมาด้วยราคาที่สูงกว่า และต้องรออย่างน้อย 1 เดือน แต่ลูกค้าก็ให้การตอบรับดีมาก เพราะรู้สึกว่าสินค้าของ PIPATCHARA มีมูลค่าและความคุ้มค่ามากขึ้น

พาแบรนด์ไทย โกอินเตอร์สู่เวทีโลก

pipatchara โกอินเตอร์

จากจุดเริ่มต้นของแบรนด์เล็ก ๆ ที่เกิดจากความหลงใหลในงานถักทอด้วยมือ ก้าวสู่แบรนด์แฟชั่นระดับอินเตอร์ ปัจจุบันแม้ว่า PIPATCHARA จะเพิ่งเปิดตัวได้ราว 6 ปี แต่ก็มีฐานลูกค้าทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป รวมถึงในเอเชียอย่างดูไบ ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ทั้งยังเป็นที่นิยมในหมู่ดาราและเซเลบริตีระดับ A-list อีกด้วย และนี่ก็คือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ PIPATCHARA เฉิดฉายในเวทีโลก
 

ดีไซน์ทันสมัย ใช้วัสดุพรีเมียม

สินค้าของ PIPATCHARA ผ่านเวทีประกวดระดับโลกมาแล้วมากมาย เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าเป็นดีไซน์ที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ด้วยดีไซน์ที่ทันสมัย และไม่ทิ้ง Brand Character อย่างการถักลายมาคราเม่อันเป็นเอกลักษณ์ นอกจากนี้แม้ว่าสินค้าจะผลิตในไทย เพื่อให้ง่ายต่อการรักษามาตรฐาน แต่วัสดุต่าง ๆ เช่น หนังและอะไหล่ของกระเป๋า เป็นการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งหมด เพื่อคุณภาพและความน่าเชื่อถือของสินค้า ซึ่งคุณเพชรเผยว่าหากในอนาคตโรงงานผลิตหนังในไทยเริ่มสนใจเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น ก็อาจจะไม่จำเป็นต้องหาซัพพลายเออร์จากต่างประเทศอีกต่อไป
 

เข้าร่วมงานต่าง ๆ ให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก

PIPATCHARA ได้เข้าร่วมงานแฟชั่นวีกของบรรดาเมืองหลวงแห่งแฟชั่นระดับโลก ทั้งนิวยอร์ก ปารีส ลอนดอน มิลาน และดูไบ ท่ามกลางเหล่าดีไซน์เนอร์และเซเลบริตีชื่อดังเพื่อให้แบรนด์เป็นที่รู้จักมากขึ้น รวมถึงเพื่อสร้างคอนเนกชันใหม่ ๆ ในวงการแฟชั่น
 

เปิด Pop Up โชว์รูมในช่วงแฟชั่นวีก

เมื่อได้รับโอกาสให้เข้าร่วมงานแฟชั่นวีกในประเทศต่าง ๆ ช่วงนั้น PIPATCHARA ก็จะเปิดโชว์รูมขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อขยายช่องทางการขาย ดึงดูดลูกค้าที่สนใจผลงานที่โชว์ในรันเวย์ นอกจากนี้ยังเป็นการเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็น International Brand ให้กับ PIPATCHARA อีกด้วย
 

ส่งสินค้าให้เซเลบริตีทดลองใช้

คุณเพชรจะหมั่นติดต่อกับทางพีอาร์เอเจนซี และสไตลิสต์ ในประเทศที่ PIPATCHARA ไปเปิดร้าน โดยส่งสินค้าไปให้กับเหล่าเซเลบริตีซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “แอนน์ แฮทธาเวย์” ที่เลือกถือกระเป๋ารุ่น Mini Amu Crystal ไปเดินพรมแดงงาน SXSW นั่นเอง

และนี่ก็คือเรื่องราวของ PIPATCHARA แบรนด์แฟชั่นระดับไฮเอนด์ ซึ่งนับเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่สร้างความโดดเด่นแตกต่างจากแบรนด์อื่นด้วยงานหัตถกรรมฝีมือชาวบ้านท้องถิ่นไทยแท้ ประกอบกับกลยุทธ์วิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าให้กับผลิตภัณฑ์จากพลาสติกรีไซเคิลที่ต้องบอกว่าทำถึงจริง ๆ ทั้งหมดนี้จึงทำให้ PIPATCHARA มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร จนครองใจเหล่าแฟชั่นนิสต้าได้ทั่วโลก

ผู้ประกอบการหรือเจ้าของกิจการที่มีไอเดียวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้า หรืออยากสร้างธุรกิจจากพลาสติกรีไซเคิล ทางธนาคารกรุงศรีสามารถช่วยต่อยอดให้ทุกไอเดียเกิดขึ้นได้จริง ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สินเชื่อเพื่อสร้างธุรกิจ


อ้างอิง
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา