เมื่อพูดชื่อของคุณปลา iberry “อัจฉรา บุรารักษ์” สิ่งแรกที่เรานึกถึงคือภาพของนักธุรกิจหญิงเก่งระดับแนวหน้าในเมืองไทย เจ้าของอาณาจักร “iberry Group” ที่มีร้านอาหารในเครือมากกว่า 10 แบรนด์ อาทิ “กับข้าวกับปลา” และ “รสนิยม” โดยรวมแล้วมีมากกว่า 100 สาขา และทำยอดขายได้ทะลุ 1,000 ล้านบาท ซึ่งทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นจากกิจการร้านไอศกรีมเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “iberry” เท่านั้น ลองไปดูกันว่าเธอมีเคล็ดลับอะไรที่ทำให้ธุรกิจกลายเป็น Top of Mind ในใจลูกค้า
เบื้องหลังคุณปลา iberry แอร์ฯ สาว ที่ผันตัวมาเป็นเจ้าของร้านอาหาร
หลังจากที่คุณปลาจบการศึกษาปริญญาตรีด้านนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ก็ได้ทำงานเป็นเลขานุการของผู้บริหารโรงแรมแห่งหนึ่ง ต่อมาจึงก้าวเข้าสู่เส้นทางอาชีพแอร์โฮสเตส แต่ด้วยความที่เป็นคนชอบทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ หันมาทำตามความฝันของตัวเอง ด้วยการเปิดร้านไอศกรีมโฮมเมดเล็ก ๆ ในปี 2542 ภายใต้แบรนด์ “iberry” ย่านสุขุมวิท 24 ซึ่งคุณปลาเริ่มเรียนรู้การทำธุรกิจทุกอย่างด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกจนพัฒนาสูตรไอศกรีมได้นับ 100 รสชาติ
จากนั้นคุณปลาก็เริ่มมองว่า หากมีธุรกิจร้านไอศกรีมเพียงอย่างเดียว อาจต้องแบกรับความเสี่ยงมากเกินไป จึงขยับขยายสู่การเปิดร้านอาหารแบรนด์ต่าง ๆ จนกระทั่ง 25 ปีต่อมาก็พัฒนาสู่ “อาณาจักร iberry Group” ซึ่งฉายา “เจ้าแม่ร้านอาหาร” คงไม่เกินจริงนักสำหรับเวิร์กกิงวูแมนสุดเก่งคนนี้
เปิดอาณาจักร iberry Group
ปัจจุบันร้านอาหารในเครือ iberry หรือบริษัท ไอเบอร์รี่ โฮมเมด จำกัด มีทั้งหมด 8 แบรนด์ ไล่เรียงมาตั้งแต่
- “iberry” ไอศกรีมโฮมเมดพรีเมียม
- “กับข้าวกับปลา” ร้านอาหารไทยและฝรั่งร่วมสมัย
- “รสนิยม” ก๋วยเตี๋ยวและสตรีตฟูดในบรรยากาศไทยย้อนยุค
- “โรงสีโภชนา” อาหารไทย-จีน และซีฟูดขึ้นเหลา รวมถึงมีแบรนด์
- “ข้าวต้มกุ๊ยโรงสี by โรงสีโภชนา” ที่เสิร์ฟเซตเมนูข้าวต้มกุ๊ยพร้อมเครื่องเคียง
- “เจริญแกง” ร้านข้าวแกงเมนูยอดฮิตและเมนูหากินยาก
- “เบิร์นบุษบา” ร้านยำและอาหารอีสานสุดแซ่บ
- “ฟ้าปลาทาน” ข้าวต้มปลาและก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา
- “Oh My Godmother” (โอ้มายก็อดมาเธอร์) คาเฟ่เบเกอรีสไตล์เกาหลี ฝรั่งเศส และอิตาเลียน
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีแบรนด์ที่จดทะเบียนภายใต้บริษัท เดอะ แพลทเทอส์ มหานคร จำกัด อีก 3 แบรนด์ได้แก่
- “Ăn Cơm Ăn Cá” (อันเกิม-อันก๋า) อาหารเวียดนามรสชาติถูกปากคนไทย
- “FRAN’S” (แฟรนส์) อาหารมื้อสายสไตล์ยุโรป
- “Chin Bo Dang” (ชิ้นโบแดง) หมูกระทะแบบพรีเมียม
นอกจากนี้คุณปลายังเป็นหุ้นส่วนร่วมก่อตั้งแบรนด์
“ทองสมิทธ์” ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือพรีเมียม และแบรนด์
“แซ่บอีลี่” ร้านอาหารอีสานรสจัดจ้านอีกด้วย
การยกระดับอาหารไทยของ iberry Group
ตลอดเวลาที่ผ่านมา คุณปลารู้สึกสนุกกับการสร้างแบรนด์และคิดคอนเซปต์อาหารใหม่ ๆ โดยเล็งเห็นเสน่ห์ของอาหารไทย ที่สามารถสร้างสรรค์โอกาสทางธุรกิจได้มากมาย ยกตัวอย่างเช่นแบรนด์ “รสนิยม” ที่หยิบยกเมนูอย่างก๋วยเตี๋ยวและสตรีตฟูดแบบไทย ๆ ที่ทุกคนคุ้นเคย มายกระดับให้พรีเมียมขึ้น ด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูง ปรุงอย่างพิถีพิถัน พร้อมนำเสนอในบรรยากาศร้านที่อบอุ่นเป็นกันเอง ด้วยสไตล์ออเรียลทัลชิค เหมือนได้ย้อนยุคไปรับประทานอาหารไทยรสเลิศในวันวาน
นอกจากนี้ยังมีการผลิตอาหารกล่องแช่เย็นพร้อมรับประทาน วางจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อ เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมและรูปแบบการดำเนินชีวิตของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยมีเป้าหมายในการนำผลิตภัณฑ์เข้าถึงผู้บริโภคให้มากขึ้น
หรืออย่างแบรนด์ “ชิ้นโบแดง” น้องใหม่ของร้านอาหารเครือ iberry คุณปลาก็ต้องการยกระดับเมนูหมูกระทะของไทย ให้มีคุณภาพทัดเทียมกับอาหารปิ้งย่างระดับนานาชาติ ด้วยการใช้วัตถุดิบพรีเมียม สดใหม่ รสชาติอร่อย รวมถึงอุปกรณ์เตาถ่านที่สั่งทำใหม่ ภายใต้บรรยากาศห้องแอร์เย็นสบาย เพื่อสร้างความประทับใจในการรับประทาน
เคล็ดลับของคุณปลา iberry ที่ทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ
สิ่งที่ทำให้ร้านอาหารในเครือ iberry เติบโตอย่างฉุดไม่อยู่ และครองใจลูกค้าทั้งคนไทยและต่างชาติได้ตลอดมา เมื่อวิเคราะห์ดูแล้วก็จะมี 4 ปัจจัยดังนี้
1. ต้องรู้ลึกรู้จริงในสิ่งที่ทำ
เนื่องจากคุณปลา iberry เป็นคนที่มีรสมือและรสนิยมด้านอาหารดีอยู่แล้ว จึงพอจะมีพื้นความรู้ในการทำอาหารว่าแบบไหนคือ “อร่อย” ซึ่งเธอก็หมั่นเรียนรู้เพื่อพัฒนาสูตรอยู่ตลอด ไม่ว่าจะเป็นการออกไปเดินจ่ายตลาดเองเพื่อสรรหาวัตถุดิบ การปรุงน้ำจิ้มเองจนได้สูตรที่น่าพอใจ ทั้งหมดนี้เพื่อให้ตนเองในฐานะเจ้าของกิจการรู้จักและเข้าใจอาหารทุกเมนูอย่างแท้จริง
2. ควบคุมรสชาติให้อร่อยเหมือนกันทุกสาขา
ปัญหาหนักใจของร้านอาหารที่มีหลายสาขา คงหนีไม่พ้นเรื่อง “ความเสถียรของรสชาติ” ซึ่งเป็นปัจจัยที่ควบคุมได้ยาก บางครั้งแต่ละวัน แต่ละสาขา รสชาติอาหารอาจแตกต่างกันไป แต่สำหรับคุณปลา iberry เน้นย้ำเลยว่าจะต้องใช้วัตถุดิบยี่ห้อเดิม จากแหล่งเดิมเท่านั้น และ ในการทำอาหาร 1 จาน จะต้องชั่ง-ตวง-วัด วัตถุดิบทุกอย่างให้เป๊ะตามสูตรจากครัวกลางที่คุณปลากำหนดมาตรฐานไว้ ดังนั้นไม่ว่าจะไปกี่สาขาก็จะได้ชิมรสชาติอร่อยกลมกล่อมแบบเดียวกัน
3. เข้าใจลูกค้า เข้าใจตลาด
ร้านอาหารในเครือ iberry แต่ละแบรนด์มีสไตล์ของแบรนด์ที่แตกต่างกัน ซึ่งก็มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายแตกต่างกันด้วย โดยมีทั้งคนไทยและคนต่างชาติ ทางคุณปลา iberry ก็จะศึกษาลูกค้าแต่ละกลุ่ม ทั้งในแง่ของกำลังซื้อ ไลฟ์สไตล์ พฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อออกแบบเมนูและกำหนดราคาให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย
ไม่เพียงแต่ใส่ใจเรื่องรสชาติและคุณภาพของอาหาร เพราะทาง iberry group ยังเข้าใจความต้องการของลูกค้าของแบรนด์ที่ต้องการประสบการณ์ในมื้ออาหารที่น่าประทับใจที่สุด ทางแบรนด์จึงให้ความสำคัญไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศภายในและภายนอกร้าน รวมถึงการจัดจานแต่ละเมนูที่ต้องสวยงาม มีเอกลักษณ์ที่เห็นแล้วจำได้ทันทีว่าเป็นร้านไหน
อีกส่วนสำคัญที่ทำให้ iberry group มีความแข็งแกร่ง นั่นคือการศึกษาทำความเข้าใจตลาด อย่างเช่น เรื่องเทรนด์ของอาหารที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอย่างรวดเร็ว แต่หากโปรดักต์ใดในร้านเป็นที่นิยม ทางแบรนดก็จะนำมาต่อยอด เช่น เครื่องแกงจากแบรนด์เจริญแกง นอกจากนี้ยังมีการ Collaboration กับแบรนด์อื่น ๆ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ เช่น การจับมือกับร้านสะดวกซื้อ ในการวางจำหน่ายข้าวกล่องอุ่นร้อนพร้อมรับประทาน
4. ราคาและสถานที่เหมาะสม
ด้วยความที่คุณปลาพยายามสร้างธุรกิจของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้มีผู้ใหญ่หลายคนมองว่าเป็นคนขยัน จึงมีเจ้าของที่ดินเสนอพื้นที่ให้มาโดยตลอด ร้านอาหารเครือ iberry จึงมีโอกาสทดลองเปิดในพื้นที่ใหม่ ๆ แต่หลังจากวิกฤติโควิดคุณปลาก็ได้ปรับตัวสู่การทำเดลิเวอรีมากขึ้น จึงไม่ได้เน้นเปิดร้านในพื้นที่ห้างสรรพสินค้าเช่นเดิม แต่เริ่มมองหาทำเลแบบสแตนด์อโลน หรือตั้งอยู่ในคอมมูนิตีมอลล์มากขึ้น เพื่อความสะดวกในการรับ-ส่งอาหาร นอกจากนี้ยังมีอาหารในทุกระดับราคาให้เลือก และเมื่อมองที่คุณภาพของวัตถุดิบแล้ว ก็ถือว่าสมราคา
iberry Group เตรียมขยายสาขาทั้งในไทย-ต่างประเทศ
นอกจาก iberry Group จะประสบความสำเร็จทำยอดขายพันล้านในประเทศแล้ว ในเร็ว ๆ นี้คุณปลายังมีแผนจะขยายธุรกิจ ทุ่มงบราว 500 ล้านบาท เพื่อเตรียมเปิดสาขาใหม่อีก 25 แห่ง ทั้งยังเตรียมนำแบรนด์ที่ฮอตฮิตในหมู่ชาวต่างชาติ คือ “รสนิยม” “กับข้าวกับปลา” และ “ทองสมิทธิ์” ไปเปิดสาขาในต่างประเทศ เช่น จีน ฮ่องกง เวียดนาม และกัมพูชา ปิดท้ายด้วยอีกหนึ่งเป้าหมายใหญ่ คือ การนำ iberry Group เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของไทยอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็คือเรื่องราวของคุณปลา iberry ที่ตัดสินใจเดินตามเส้นทางที่ตนเองรัก ด้วยการสร้างแบรนด์ให้กับ
ธุรกิจร้านอาหารที่มีไอเดียและคอนเซปต์แตกต่างจากร้านอื่น ๆ ในท้องตลาด รวมถึงให้ความใส่ใจทั้งคุณภาพวัตถุดิบ รสชาติ และบรรยากาศ ภายใต้ราคาที่จับต้องได้ จึงทำให้ iberry Group ประสบความสำเร็จ และยืนหนึ่งในใจลูกค้ามาอย่างยาวนาน
อ้างอิง