รถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงและได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในประเทศไทย แม้ช่วงหลังตลาดรถยนต์จะหดตัวลง จากปัญหาเศรษฐกิจและหนี้ครัวเรือนที่เข้ามาฉุดตลาด แต่ EV Car ก็ยังไปได้เรื่อย ๆ และมีคนรุ่นใหม่เปิดตัวมากขึ้น บนท้องถนนของไทย เราจะเห็นแบรนด์ต่าง ๆ เช่น Tesla, BYD, MG, ORA Good Cat, และ NETA เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่คำถามที่หลายคนสงสัยคือ: “จะเป็นไปได้ไหมที่รถยนต์ไฟฟ้าจะมาแทนที่รถยนต์สันดาปในอนาคต?” และรถรุ่นไหนจะเหมาะกับการใช้งานของเรา มาหาคำตอบไปพร้อมกัน
EV CAR คืออะไร? ทำไมถึงได้รับความสนใจ
EV Car (Electric Vehicle) คือ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยไม่ใช้เชื้อเพลิงประเภทน้ำมันหรือแก๊สในกระบวนการขับขี่ แม้ว่าในรถ EV จะไม่มีเครื่องยนต์แบบรถยนต์สันดาป แต่จะมีส่วนประกอบหลัก ๆ เช่น มอเตอร์ไฟฟ้า, แบตเตอรี่ และหม้อแปลง ซึ่งทำหน้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้าให้สามารถขับเคลื่อนรถได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง BYD, NETA, GWM จากประเทศจีน และแบรนด์ยุโรปอย่าง BMW, Audi, Mercedes-Benz และ Volvo ได้เริ่มเปิดตัวรถไฟฟ้ารุ่นใหม่ในไทย โดยมุ่งเน้นการทำตลาดทั้งในกลุ่มรถระดับราคาประหยัดและระดับพรีเมียม ซึ่งสะท้อนถึงการเติบโตของตลาด EV ในไทยที่มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยให้คาดการณ์ได้ว่าในอนาคตโอกาสที่รถ EV จะมาปฏิวัติวงการรถยนต์ในประเทศไทยมีสูงมาก
EV Car จะมาแทนที่รถยนต์สันดาปได้จริงหรือ?
คำถามนี้เป็นคำถามที่น่าสนใจสำหรับหลายคน โดยเฉพาะในแง่ของเทคโนโลยีและความยั่งยืนจากการลดมลพิษโลก ถ้ามองตามกระแสโลกและการพัฒนาในหลายประเทศ เช่น สหภาพยุโรป ที่มีแผนห้ามการจำหน่ายรถยนต์สันดาปภายในปี 2025 ก็สะท้อนให้เห็นถึงทิศทางการขับเคลื่อนของโลกที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อม
ในประเทศไทยเองภาครัฐและภาคเอกชนต่างก็มีการสนับสนุนเทคโนโลยี EV อย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการคาดการณ์ว่าในอนาคต EV จะมีบทบาทสำคัญในการทดแทนรถยนต์สันดาปได้ แต่จะมากกว่ารถยนต์สันดาปหรือไม่ต้องติดตามต่อไป
เปรียบเทียบ EV กับรถยนต์สันดาป สิ่งที่ควรรู้ก่อนตัดสินใจ
เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ เรามาเปรียบเทียบสมรรถนะของรถยนต์ทั้ง 2 ประเภทนี้กันว่า เหมือนหรือต่างกันอย่างไร คุ้มค่าไหมที่จะเปลี่ยน เพื่อให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้นก่อนตัดสินใจ
1. ด้านประหยัดพลังงาน
- EV : ต้นทุนในการชาร์จไฟฟ้าถูกกว่าการเติมน้ำมันอย่างมาก อีกทั้งยังสามารถติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้านได้ และมีค่าบำรุงรักษาที่ถูกกว่า
- รถสันดาป : ต้นทุนการเติมน้ำมันสูงกว่า ตามราคาน้ำมันที่ผันผวน
2. ด้านความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- EV : ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า 100% ไม่มีการเผาไหม้ จึงไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
- รถสันดาป : มีการเผาไหม้เชื้อเพลิง ส่งผลให้เกิดมลพิษทางอากาศ
3. ด้านสมรรถนะการขับขี่
- EV : การเร่งความเร็วทันใจ การขับขี่เงียบและมีประสิทธิภาพ
- รถสันดาป : เสียงเครื่องยนต์และการตอบสนองจากการขับขี่ที่สนุกและเร้าใจกว่า EV
4. ด้านการซ่อมบำรุง
- EV : อะไหล่และชิ้นส่วนของรถ EV อาจมีราคาสูง แต่เนื่องจากรถ EV มีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวจำกัด จึงมีการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถยนต์สันดาป
- รถสันดาป : มีการบำรุงรักษาและสามารถเปลี่ยนอะไหล่ได้บ่อยครั้ง
5. ด้านระยะทางการขับขี่
- EV : ขึ้นอยู่กับความจุของแบตเตอรี่ ซึ่งปัจจุบันนี้สามารถวิ่งได้ระยะทางไกลเทียบกับรถสันดาป แต่ต้องพิจารณาความพร้อมของสถานีชาร์จในเส้นทางที่จะไปด้วย
- รถสันดาป : สามารถขับขี่ได้ไกลกว่าและมีสถานีเติมน้ำมันครอบคลุมทั่วประเทศ
ความกังวลเกี่ยวกับ EV CAR ที่หลายคนยังไม่กล้าตัดสินใจ
จากการเปรียบเทียบสมรรถนะข้างต้น ทำให้ทุกคนได้เห็นแล้วว่า EV CAR มีข้อดีหลายด้าน มีความคุ้มค่าและน่าใช้งานมากกว่ารถยนต์สันดาป ซึ่งก็ต้องบอกว่า ‘ใช่’ เพราะ EV CAR ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาทั้งหมดของรถยนต์สันดาปนั่นเอง แต่ก็ยังคงมีความกังวลที่ทำให้หลายคนลังเลที่จะซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ได้แก่
1. กังวลว่าไฟฟ้าจะลัดวงจรเมื่อต้องลุยน้ำท่วม
EV CAR มักมาพร้อมระบบป้องกันน้ำ เช่น Ingress Protection (IP) ที่ช่วยให้รถสามารถทนทานกับน้ำได้ระยะหนึ่งโดยไม่เกิดความเสียหาย โดยค่า IP นี้จะมีการจัดอันดับเป็นตัวเลขต่อท้ายเอาไว้ เช่น IP65 หรือ IP67 ซึ่งเปรียบเสมือนการให้คะแนนการป้องกันน้ำและฝุ่นของ EV CAR ยิ่งเลขต่อท้ายมีจำนวนมาก บ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและฝุ่นที่มากขึ้น
2. กังวลเรื่องความร้อนของแบตเตอรี่จะทำให้เสื่อมเร็ว
EV CAR ใช้แบตเตอรี่แบบลิเธียมไอออน ที่มีประสิทธิภาพทั้งการเก็บไฟฟ้า และการจ่ายพลังงานไฟฟ้าแรงสูง ผู้ที่ไม่กล้าซื้อรถ EV หลายคนจึงมีความกังวลว่าแบตเตอรี่จะมีความปลอดภัยขณะใช้งานหรือไม่ ก็ต้องบอกว่า EV CAR ได้รับการออกแบบให้มีระบบการจัดการอุณหภูมิของแบตเตอรี่ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างปลอดภัยในสภาพอากาศที่หลากหลาย
3. กังวลว่าสถานีชาร์จไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ถ้าย้อนเวลาไป 2-3 ปีก่อนหน้านี้ เรื่องของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอาจเป็นเรื่องน่ากังวลใจ แต่ในปัจจุบันนี้ การเพิ่มสถานีชาร์จเป็นไปอย่างรวดเร็วและครอบคลุมมากขึ้น ทำให้การใช้งาน EV Car ในไทยสะดวกสบายยิ่งขึ้น และในอนาคตมีแนวโน้มว่าจะมีสถานีชาร์จพอ ๆ กับสถานีน้ำมัน ดังนั้นหากคุณกังวลใจในข้อนี้อยู่ สามารถผ่อนคลายและค่อย ๆ เลือกรถที่เหมาะกับคุณได้เลย
EV Car กับอนาคตที่สดใส
EV Car กำลังเติบโตและเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรมนี้ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ซึ่งเชื่อมั่นว่า EV จะสามารถเข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการขนส่งได้ในอนาคตอันใกล้
สำหรับผู้ที่สนใจในรถยนต์ไฟฟ้า ปัจจุบันมีรถ EV รุ่นต่าง ๆ ที่เหมาะกับการใช้งานหลากหลายราคา เช่น
1. KIA รุ่น EV9
KIA เปิดตัว EV9 ซึ่งเป็น SUV ไฟฟ้าระดับพรีเมียมที่มาพร้อมการออกแบบที่โดดเด่นและความกว้างขวาง เน้นความสะดวกสบายและเทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น ระบบขับขี่อัตโนมัติในบางสถานการณ์ และแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ที่ให้ระยะทางวิ่งได้ถึง 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถไฟฟ้าสำหรับครอบครัว
2. Deepal S7
Deepal S7 เป็น SUV ไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวในปีนี้ มาพร้อมจุดเด่นด้านอัตราเร่งที่ 0-100 กม./ชม. ภายใน 6.7 วินาที แบตเตอรี่มีระยะวิ่งสูงสุดประมาณ 500 กิโลเมตร ตัวรถกว้างขวาง เหมาะสำหรับผู้ที่มองหารถ EV แบบครอบครัว ระดับราคาอยู่ที่ 1.3 - 1.5 ล้านบาท ในไทย ถือเป็นคู่แข่งกับ BYD Seal U โดยตรง
3. BYD Seal U
BYD Seal U เป็น SUV ไฟฟ้าขนาดกลาง มาพร้อมมอเตอร์ไฟฟ้าด้านหน้าที่มีกำลัง 218 แรงม้า ให้ระยะวิ่งประมาณ 500 กิโลเมตร ต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง การออกแบบภายในเน้นความเงียบและความกว้างขวาง ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 217 กม./ชม. แม้อัตราเร่งจะช้ากว่า Deepal S7 แต่ Seal U เด่นด้านการใช้งานที่สมดุลทั้งในเมืองและการเดินทางไกล
แม้ตลาดรถยนต์โดยรวมจะได้รับผลกระทบจากกำลังซื้อที่ชะลอตัว แต่อนาคตของรถยนต์ไฟฟ้าดูสดใสในประเทศไทย และหากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้าเพื่อลดการใช้พลังงานและช่วยรักษ์โลก EV Car อาจเป็นคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับคุณ หากคุณต้องการ
ข้อมูลสิทธิพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติม สามารถติดต่อผ่านช่องทางโทรศัพท์ที่เบอร์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 - 17.00 น. หรือ
สนใจร่วมเป็นลูกค้า KRUNGSRI PRIME สามารถฝากข้อมูลเพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดต่อกลับได้เช่นกัน