จาก New Normal สู่ Next Normal - วิถีใหม่ ทำธุรกิจอย่างไรให้รุ่ง ลงทุนอย่างไรให้รอด

ก่อนที่จะมาเป็น Next Normal บอกเลยว่าในช่วงที่ผ่านมาหนักหน่วงไม่ใช่น้อย ใครจะคิดว่าวันหนึ่งจะมีโรคระบาดเกิดขึ้น ไหนจะโรคโควิด-19 และไหนจะโรคฝีดาษลิง ทำเอาเศรษฐกิจที่ระส่ำระสายอยู่แล้ว ล้มลงไม่เป็นท่ากันทั่วโลก เพราะไม่มีประเทศไหนที่ตั้งรับได้ทัน 2 ปี ที่ผ่านมาคุณคงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของโลกกันมาแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งพฤติกรรมการใช้ชีวิตของทุกคนได้เปลี่ยนแปลงไปสู่ New Normal เช่นกัน การใส่มาสก์ก่อนออกจากบ้านได้กลายเป็นเรื่องปกติ สิ่งของที่ต้องพกติดตัวนอกจากโทรศัพท์มือถือและกระเป๋าสตางค์ ก็คงจะหนีไม่พ้นสเปรย์หรือเจลแอลกอฮอล์ ที่เอาไว้ทำความสะอาดมือ

การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตให้เป็นวิถีใหม่หรือ New Normal นั้น นอกจากจะกระทบกับชีวิตประจำวันของใครหลายคนแล้ว ยังกระทบกับหลายธุรกิจอีกด้วย ถือเป็นการล้างบางธุรกิจครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์เลยทีเดียว
 

บทบาทของ New Normal ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

บทบาทของ New Normal ที่เกิดขึ้น ได้เข้ามาปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตของคนในสังคมให้เกิดพฤติกรรมใหม่ ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจเป็นวงกว้าง โดยธุรกิจหลักที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ได้แก่

• ธุรกิจโรงแรม เมื่อตอนที่โรคโควิดเริ่มระบาด ประเทศไทยมีการป้องกันและควบคุมโรคระบาด โดยงดเปิดรับนักท่องเที่ยว จากนั้นเริ่มมีการผ่อนคลายมาตราการ โดยให้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้าประเทศ แต่ด้วยขั้นตอนที่ยุ่งยากประกอบกับสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติดีนัก ทำให้ธุรกิจหรือกิจการด้านที่พักโรงแรมพากันซบเซา บางแห่งถึงขั้นต้องปิดตัว อย่าง “ดาราเทวี” โรงแรมระดับ 5 ดาว ประจำจังหวัดเชียงใหม่ ที่ดำเนินกิจการมาถึง 19 ปี ต้องปิดตัวลงในปี 2563 ด้วยหลายปัจจัย แต่สาเหตุหลักเลยคือการขาดนักท่องเที่ยว
• ธุรกิจร้านอาหาร ตั้งแต่รายใหญ่ไปจนถึงรายย่อย ต่างก็ประสบปัญหาตั้งแต่โรคระบาดเข้ามา อย่าง ร้าน A&W ที่ถึงแม้จะไม่ได้หายไปในช่วงโควิดระลอกแรก แต่ก็ยื้อมาจนสุดทาง จนต้องปิดตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 20 มีนาคม 2565 ทำให้หลายคนต่างก็พากันเสียดาย

 

จาก New Normal สู่ Next Normal

 
เมื่อ New Normal ไม่เป็น New Normal อีกต่อไป โลกได้เข้าสู่ยุคถัดไปที่เรียกว่า Next Normal หรือ “ความปกติถัดไป” แน่นอนว่าเมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปแล้ว ก็ไม่มีทางจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม ไปดูกันว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกิดขึ้นใน Next Normal มีอะไรบ้าง
 

ปรับธุรกิจของคุณให้เหมาะกับเทรนด์ผู้บริโภคในยุค Next Normal

 
เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ประกอบกับการเกิดโรคระบาดขึ้น การเปลี่ยนแปลงก็ยิ่งทวีคูณ โดยความต้องการพื้นฐานในการใช้ชีวิตได้เปลี่ยนจากปัยจัย 4 เป็นปัจจัย 10 ซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ผู้ทำธุรกิจจะต้องให้ความสำคัญอย่างมาก ไปดูกันว่าเทรนด์ผู้บริโภคในยุค Next Normal หรือ ปัจจัย 10 ที่เพิ่มมานั้นมีอะไรบ้าง
 

1. อาหาร

การเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้บริโภคเลือกกินมากขึ้น เริ่มเห็นความสำคัญของสุขภาพมากขึ้น ทำให้เทรนด์การกินอาหารของผู้บริโภคที่เกิดขึ้นในยุค Next Normal อย่างการกินอาหารคลีน อาหาร Organic ที่สามารถตรวจสอบแหล่งที่มาได้ หรือการเลือกรับประทานเนื้อสัตว์จากพืช อย่าง Plant Based Meat ได้กลายเป็นที่นิยมกันอย่างมาก

การสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน นอกจากพฤติกรรมการเลือกรับประทานอาหารแล้ว รูปแบบของการซื้ออาหารก็เปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน คนหันมาสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่มากขึ้น เพราะช่วยลดความเสี่ยงในการติดโรค และไม่ต้องเสียเวลาออกไปข้างนอก นอกจากจะซื้ออาหารแล้ว ยังสามารถซื้อผัก ผลไม้ รวมถึงของใช้แบบเดลิเวอรี่ได้อีกด้วย จริง ๆ แล้วพวกแอปพลิเคชันเหล่านี้มีมาก่อนหน้า แต่การเกิดโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้คนหันมาใช้บริการมากขึ้น จนปัจจุบันได้กลายเป็นความเคยชินในวังวน Next Normal ไปแล้ว เพราะช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น

“หากคุณคิดที่จะเปิดธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร ควรมองช่องทางการขายแบบเดลิเวอรี่ไว้ด้วย เพราะจากบทเรียนที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าร้านที่ปรับตัวได้เร็ว เป็นร้านที่อยู่รอดจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งในอนาคตไม่มีทางรู้เลยว่าจะเกิดวิกฤติแบบนี้อีกหรือไม่”
 

2. ที่อยู่อาศัย

บ้านอัจฉริยะ (Smart Home) ในช่วงโควิดที่ผ่านมาทำให้คนอยู่บ้านมากขึ้น แม้แต่การทำงานก็ปรับรูปแบบเป็น Work From Home “ทำให้บ้านเป็นได้มากกว่าที่อยู่อาศัย” คนจึงหันมาให้ความสำคัญกับบ้านมากขึ้น เทรนด์ของการทำบ้านให้เป็น Smart Home จึงเกิดขึ้นด้วยการนำเทคโนโลยีเพื่อความสะดวกสบายมาใส่ไว้ในฟังก์ชันเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เช่น การเปิด-ปิด หรือการเช็คสถานะของเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ ที่ถึงแม้จะเข้าสู่ยุค Next Normal แล้วหลายคนก็ยังคงติดใจความสะดวกความสบายอยู่
 

3. ยานพาหนะ

รถยนต์พลังงานไฟฟ้า (EV) เกิดจากการที่ผู้บริโภคหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมกันมากขึ้น รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วง Next Normal นี้คนจึงหันไปให้ความสนใจกับรถยนต์พลังงานไฟฟ้ามากขึ้น แม้แต่รถเมล์ที่กำลังจะเปลี่ยนมาใช้เป็นรถเมล์พลังงานไฟฟ้า เนื่องจากสร้างมลภาวะน้อย
 

4. โซเชียลมีเดีย

เทรนด์การใช้โซเชียลมีเดีย นับเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น จากการที่โลกของเราเข้าสู่ยุค Digital Transformation 2.0 ไม่แปลกเลยที่การตลาดสมัยนี้มุ่งเน้นไปที่ Online platform ไม่ว่าจะเป็น Tik Tok IG หรือ Facebook เพราะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคที่เป็น Target ได้อย่างตรงจุดแน่นอน
 

5. เงิน

สังคมไร้เงินสด Cashless Payment ถ้าเป็นเมื่อก่อนหากไม่มีเงินสดคงต้องวิ่งหาตู้ ATM กันให้วุ่น เพราะบางร้านก็ไม่รับโอนเงิน แต่เมื่อเข้าสู่ยุค New Normal ทั้งทางร้านค้าและผู้บริโภคหันมาใช้ Cashless Payment กันอย่างพร้อมเพรียงเนื่องจากกลัวการติดเชื้อโรคผ่านการสัมผัสเงินสด อีกทั้งโครงการของรัฐบาลอย่างคนละครึ่งที่ใช้งานผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตัง ก็มีส่วนทำให้ร้านค้าเปิดใจใช้การชำระสินค้าในรูปแบบ Cashless Payment มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการรับชำระเงินแบบโอนเงิน หรือ Scan to Pay ผ่าน Mobile Banking, e-Money และ Card Payment ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้น โดยไม่ต้องพกเงินสดก็สามารถซื้อของได้
 

6. เครื่องนุ่งห่ม

เทรนด์การเลือกซื้อเครื่องแต่งกาย ผู้บริโภคสมัยนี้นอกจากการเลือกซื้อเสื้อผ้าตามเทรนด์แล้ว ยังคำนึงถึงกระบวนการผลิต และความรับผิดชอบต่อสังคมของแบรนด์อีกด้วย ซึ่งช่วงนี้จะเห็นได้ว่าแบรนด์ทั้งหลายไม่แม้แต่แบรนด์เสื้อผ้าก็ออกมาแสดงจุดยืนในเรื่องของการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและการรับผิดชอบต่อสังคมกันมากขึ้น
 

7. ยา

ธุรกิจยาเติบโตขึ้นกว่าเดิม เพราะโรคระบาดโควิด-19 ทำให้ยาเป็นที่ต้องการมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นโอกาสทองของบริษัทยาที่ต้องเร่งกอบโกยรายได้ในช่วงนี้ และยิ่งปัจจุบันคนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้นด้วยการเลือกรับประทานอาหารเสริม อย่างเช่น วิตามินต่าง ๆ เพื่อช่วยบำรุงให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ เรียกได้ว่าธุรกิจนี้มาแรงอย่างต่อเนื่องจริง ๆ
 

8. โทรศัพท์มือถือ

เทรนด์โทรศัพท์มือถือ นอกจากการพัฒนาฟีเจอร์ต่าง ๆ บนมือถือแล้ว แบรนด์ก็หันมาใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมมากขึ้น อย่าง iPhone ก็ออกมาประกาศว่าไม่ให้ที่ชาร์จแบตเตอรี่สำหรับลูกค้าที่ซื้อโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ด้วยเหตุผลที่ต้องการเป็นส่วนหนึ่งของการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์
 

9. พลังงาน

เทรนด์ของพลังงาน ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องของพลังงานทดแทนและพลังงานหมุนเวียนกันมากขึ้น โดยเฉพาะพวกพลังงานสะอาดที่ใกล้ตัวอย่างการติดโซลาร์เซลล์เพื่อลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้า โดยปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทดแทนต่าง ๆ ให้มีความก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้ต้นทุนของพลังงานเหล่านี้ลดลง โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์และเชื้อเพลิงขยะ
 

10. การลงทุน

เน้นการลงทุนที่ยั่งยืน การลงทุนกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นผู้บริโภค หรือแม้แต่คุณเองที่เป็นนักลงทุน หรือเจ้าของธุรกิจต่าง ๆ เพราะว่าเศรษฐกิจช่วงนี้มีรายรับแค่ทางเดียวคงไม่พอ ซึ่งการลงทุนจะช่วยให้คุณมี Passive Income เข้ามา เพียงแค่คุณต้องลงทุนให้ถูกที่ถูกทาง ซึ่งการลงทุนนั้นสามารถผนวกเข้ากับปัจจัยที่กล่าวมาในข้างต้นด้วยการลงทุนในสิ่งที่ผู้บริโภคให้ความสนใจ

หากจะบอกว่าพฤติกรรมเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะโควิด-19 อย่างเดียวก็ไม่คงถูก จริง ๆ แล้วพฤติกรรมของผู้บริโภคได้มีการเปลี่ยนแปลงไปก่อนหน้านี้ แต่การเกิดโควิด-19 เป็นตัวกระตุ้นให้ผู้คนส่วนมากเข้าสู่ Loop ของการเปลี่ยนแปลงเร็วขึ้น อยู่ที่เราจะพลิกวิกฤติเป็นโอกาสได้อย่างไร
 

แนวทางในการลงทุนสำหรับยุค Next Normal

 
อย่างที่เห็นกันว่าการลงทุนเป็นการเพิ่ม Passive Income ที่ง่ายที่สุด โดยเฉพาะในยุค Next Normal แบบนี้มีอะไรที่น่าลงทุนเป็นพิเศษบ้างในช่วงนี้

1. ลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น หุ้นปันผลและกองทุนรวมหุ้นปันผล ซึ่งจะทำให้ผู้ลงทุนได้รับกระเสเงิน (Cashflow) จากการลงทุนในแต่ละปี
2. การลงทุนที่ปลอดภัยและคาดหวังผลตอบแทนได้ดี ในช่วง Next Normal นี้ควรเน้นไปที่การลงทุนระยะยาว จำพวกกิจการผูกขาดที่ไม่ได้มีราคาแพงเกินไป และจ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอ
3. ลงทุนกับกิจการผูกขาดที่ไม่มีคู่แข่ง เช่น รถไฟฟ้า ทางด่วน เป็นต้น หรือหากเป็นการลงทุนด้านการทำธุรกิจ ก็ต้องดูตามเทรนด์ผู้บริโภคในข้างต้น แล้วนำมาปรับให้เข้ากับการทำธุรกิจของคุณ

อ่านรายละเอียดเกี่ยวกับการลงทุน ในปี 2022 เพิ่มเติมได้ที่ ชวนเริ่มต้น กับปี 2022 ปีแห่งโอกาสและความท้าทาย

จะเห็นได้ว่าการทำธุรกิจ และการลงทุนในยุค Next Normal จะต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการลงทุน หากยังคิดไม่ตกว่ายุคนี้ลงทุนอะไรได้บ้าง หรือมีคำถามเกี่ยวกับการเงินและการลงทุน ทางธนาคารกรุงศรีมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนโดยเฉพาะ ที่สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจาก KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับ