การสร้างแต้มต่อในการลงทุนด้วย Cash Flow หรือกระแสเงินสด มีความสำคัญเป็นอย่างมาก ซึ่งจะช่วยให้นักลงทุนได้เห็นภาพรวมทั้งหมดของเงินสดที่มี ทำให้สามารถจัดสรรเงินได้อย่างเป็นระบบ ทั้งการวางแผนสำหรับการลงทุน และการแบ่งสัดส่วนเงินสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังช่วยให้เห็นถึงสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างชัดเจน Cash Flow จึงถือเป็นหนึ่งในเครื่องมือที่นักลงทุนควรทำการศึกษา เพื่อประโยชน์ทั้งต่อตัวเอง และเพิ่มความได้เปรียบในการลงทุน
ความหมาย และความสำคัญของกระแสเงินสด
กระแสเงินสด คือ เงินสดที่เป็นทั้งรายรับและรายจ่าย รวมไปถึงรายการในอนาคต เช่น เช็คที่ยังไม่ครบกำหนด เป็นต้น โดยประโยชน์ที่เราจะได้รับจากกระแสเงินสด หรือ Cash Flow คือ ช่วยให้ทราบถึงสภาพคล่องทางการเงิน ด้วยการประเมินจากการไหลของเงินว่าเป็นเชิงบวกหรือเชิงลบ หลักการก็คือ เมื่อมีเงินสดเข้ามามากกว่าการจ่ายออกไป จะถือว่าเป็นเชิงบวก แต่ถ้ามีเงินสดเข้ามาน้อยกว่าการจ่ายออกไป ก็จะเป็นเชิงลบ และตัวอย่างที่มาของกระแสเงินสดจะมาจาก
- เงินสดที่ได้รับจากการทำธุรกิจ หรือการประกอบอาชีพ เช่น กำไรจากการลงทุนในธุรกิจ และรายได้จากงานประจำอื่น ๆ เป็นต้น
- เงินสดที่ได้รับจากการลงทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจ เช่น เงินสดที่ได้จากการขายหรือให้เช่าที่ดิน ที่อยู่อาศัย หรืออาคารสำนักงาน, เงินสดที่ได้จากการกู้ยืม และเงินสดที่ได้รับการจากลงทุนทั้งระยะสั้นและระยะยาว เป็นต้น
ด้วยเหตุนี้นักลงทุนส่วนใหญ่จึงเลือกใช้ Cash Flow เป็นตัวชี้วัดสภาพคล่องทางการเงินเพื่อการจัดสรรเงิน และการวางแผนลงทุนเพื่อสร้าง
Passive Income ให้มีกระแสเงินสดเพิ่มมากขึ้น และนำกลับไปต่อยอดการลงทุน จนเป็นวงจรที่สร้างแต้มต่อให้กับนักลงทุนได้มีกระแสเงินสดไหลเวียนอยู่ตลอดเวลา
กระแสเงินสดดี ช่วยสร้างแต้มต่อการลงทุน
เมื่อ Cash Flow เปรียบเสมือนเครื่องฉายสภาพคล่องทางการเงิน ในยามที่ภาวะเศรษฐกิจเกิดความผันผวนรุนแรง Cash Flow จึงกลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนเริ่มมองหา เพื่อสร้างผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสด ที่จะเสริมสภาพคล่องให้แก่ตัวเอง
โดยการลงทุนโดยสร้าง Cash Flow คือ การลงทุนที่มีความคาดหวังให้เกิดผลตอบแทน หรือเงินปันผลออกมาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้นักลงทุนได้มีรายได้ หรือ Passive Income เข้ามาหมุนเวียน หรือใช้เป็นแต้มต่อสำหรับการลงทุนที่จะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของภาวะเศรษฐกิจ โดยสามารถเป็นได้ทั้งการลงทุนในหุ้นกู้ พันธบัตร เงินฝาก หรือในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีการจ่ายดอกเบี้ยหรือเงินปันผลเป็นประจำ
ดังนั้นในทางกลับกัน หากนักลงทุนมีกระแสเงินสดดี มีรายได้รับเข้ามามาก ก็จะสามารถใช้เป็นเงินทุนที่จ่ายออกไปเพื่อการลงทุน ให้ได้เป็นผลตอบแทนที่เป็นเงินสดกลับมา ซึ่งการลงทุนที่จะช่วยสร้าง Passive Income ที่ดีและน่าสนใจ นอกจากที่ได้กล่าวมาแล้ว ยังมีกองทุนอีกหนึ่งประเภทที่มีนโยบาย สร้างกระแสเงินสดให้กับผู้ที่ถือหน่วยลงทุน โดยการขายคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในกองทุนนั้นๆ (Auto Redemption)
ทำความรู้จักกองทุน Auto Redemption สร้าง Cash Flow แบบไม่ต้องเสียภาษี
กองทุนที่มีการจ่ายแบบ Auto Redemption เป็นกองทุนที่มีนโยบายจ่ายเงินออกมาเป็นงวด ๆ ตามเงื่อนไขที่ได้กำหนดไว้ในกองทุนนั้น ๆ โดยกองทุน Auto Redemption จะมีรูปแบบการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติเพื่อจ่ายเงินให้กับผู้ถือหน่วยลงทุน ด้วยวิธีซื้อหน่วยลงทุนคืนแบบอัตโนมัติ ซึ่งวิธีการนี้จะทำให้หน่วยลงทุนที่ถูกขายคืนมีจำนวนหน่วยลดลง แต่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ยังคงเท่าเดิม
ซึ่งเงินที่ได้รับจากกองทุน Auto Redemption จะไม่สามารถเรียกว่าเป็นเงินปันผลได้ เพราะเกิดจากการขายคืนหน่วยลงทุนแบบอัตโนมัติ และเงินทุกงวดที่จ่ายออกมานี้จะไม่ถูกหักภาษีหัก ณ ที่จ่าย เหมือนกับกองทุนปันผลทั่วไป ที่เงินปันผลจะต้องถูกหักภาษีหัก ณ ที่จ่ายก่อน 10% ทำให้หลังจากขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติแล้ว นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสดที่เข้ามาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย
ยกตัวอย่างเช่น กองทุน A เป็นกองทุนประเภท Auto Redemption ที่นาย B ซื้อในราคามูลค่าต่อหน่วย 10 บาท จำนวน 100 หน่วย โดยที่กองทุนได้ประกาศว่าจะทำการขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ เมื่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยระบุว่าจะจ่ายในอัตรา 100% ของกำไร ดังนั้นเมื่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้นมาเป็น 11 บาทต่อหน่วย กองทุนจึงทำการจ่ายผลตอบแทน ด้วยอัตรา 100% ของกำไร
- นาย B จะได้รับกำไร 100 บาท มาจาก กำไร 1 บาท คูณด้วยจำนวน 100 หน่วย ซึ่งเงินจำนวนนี้ นาย B จะไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
- เมื่อนาย B ได้รับเงินแล้ว จำนวนหน่วยลงทุนของนาย B จะลดลงเหลือ 90.91 หน่วย มาจาก กำไร 100 บาท หารด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 11 บาท เท่ากับ 9.09 หน่วย นำไปลบกับจำนวนหน่วยลงทุนของนาย B 100 หน่วย
- มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของนาย B ยังคงเท่าเดิม นั่นคือ 1,000 บาท มาจากจำนวนหน่วยคงเหลือ 90.91 หน่วย คูณด้วยมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ 11 บาท
โดยกองทุน Auto Redemption จะมีลักษณะเป็นกองทุนที่สามารถ
กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัม (KF-SINCOME) ได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับนโยบายของกองทุน ซึ่งแต่ละกองทุนจะมีการกำหนดเงื่อนไขสำหรับการขายคืนหน่วยลงทุนที่ไม่เหมือนกัน โดยแต่ละบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) จะมีการประกาศวันที่จ่ายผลตอบแทน และจำนวนเงินที่ชัดเจน ผ่านเว็บไซต์ของตนเอง เช่น กองทุน A ลงทุนในตราสารหนี้ กำหนดขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุก 6 เดือน โดยจะจ่ายผลแทน 3% หรือ กองทุน B ประกาศว่าจะจ่ายผลตอบแทน เมื่อมูลค่าทรัพย์สินสุทธิเพิ่มขึ้น เป็นต้น
ดังนั้นหากนักลงทุนต้องการสร้าง Cash Flow ด้วยการลงทุนกับกองทุน Auto Redemption ควรศึกษารายละเอียดในหนังสือชี้ชวนให้ละเอียด เนื่องจากกองทุนประเภทนี้ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการระบุในชื่อกองทุนว่าเป็นประเภท Auto Redemption นักลงทุนจึงต้องมีความรอบคอบ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าใช่กองทุนที่ต้องการ
แนะนำกองทุนรวมประเภท Auto Redemption ที่น่าสนใจ
ซึ่งหนึ่งในกองทุน Auto Redemption ที่น่าสนใจ สำหรับสร้าง Cash Flow ที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินได้ คือ
กองทุนเปิดกรุงศรีโกลบอลสมาร์ทอินคัม (KF-SINCOME) ที่มีความเสี่ยงอยู่ที่ระดับ 5 เสี่ยงปานกลางค่อนข้างสูง โดยมีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ที่กระจายการลงทุนไปหลากหลายประเภททั่วโลก โดยลงทุนผ่านกองทุนรวมต่างประเทศชื่อว่า PIMCO GIS Income Fund (Class I-Acc) (กองทุนหลัก) เฉลี่ยรอบปีบัญชีไม่น้อยกว่า 80% ของ NAV
พร้อมกับมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนไม่น้อยกว่า 90% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ และมีนโยบายขายคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติปีละ 4 ครั้ง จึงเปิดโอกาสสร้างกระแสเงินสดให้เป็น Passive Income อย่างต่อเนื่อง
สำหรับผู้ที่สนใจสร้าง Cash Flow ด้วยกองทุน Auto Redemption สามารถลงทุนได้เหมือนกับกองทุนอื่น ๆ และสามารถถือหน่วยลงทุนเพื่อรับกระแสเงินสดไปได้เรื่อย ๆ โดยที่ไม่ต้องเสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย เพียงแต่อย่าลืมกฎสำคัญสำหรับการลงทุน นั่นคือ “การลงทุนมีความเสี่ยง” จึงจำเป็นจะต้องมีความรอบคอบอยู่เสมอ และสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาการลงทุนที่ช่วยสร้าง Cash Flow เพิ่มเติม สามารถติดต่อขอรับคำปรึกษาจากที่ปรึกษาทางด้านการเงิน ผู้มีความเชี่ยวชาญพิเศษด้านการเงินและการลงทุนจาก KRUNGSRI PRIME ได้ที่ช่องทางฮอตไลน์ 02-296-5959 ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 9.00 น.-17.00 น. หรือ
ฝากข้อมูลเพื่อให้ทีมผู้เชี่ยวชาญจาก KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับก็ได้เช่นกัน
ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน ความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
- KF-SINCOME มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนเต็มจำนวน (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ)
- KF-SINCOME อาจลงทุนในหรือมีไว้ซึ่งตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (Non-investment grade) หรือที่ไม่ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Unrated Bond) ผู้ลงทุนอาจมีความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร ซึ่งส่งผลให้ผู้ลงทุนขาดทุนจากการลงทุนบางส่วน หรือทั้งจำนวนได้ และในการขายคืนหน่วยลงทุนอาจไม่ได้รับเงินคืนตามที่ระบุไว้ในโครงการ