ขาช็อป ขาเที่ยวไม่ควรพลาด ช็อปปิงเกาหลีช่วงไหนได้ของดี ราคาประหยัด

เกาหลีใต้หนึ่งในประเทศที่หลาย ๆ คนใส่ไว้ใน Bucket List จะไปเที่ยวเกาหลีทั้งทีก็ต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อม บทความนี้จึงได้รวบรวมข้อมูลสำคัญที่จะช่วยให้การท่องเที่ยวของทุกท่านเต็มอิ่ม มีทั้งสถานที่ท่องเที่ยว แหล่งช็อปปิง อาหารการกิน และที่สำคัญต้องไปเที่ยวช่วงไหนถึงได้ของดีราคาถูก เอาใจสายช็อป สายชิม สายชิล และสายกินลมชมวิวกันอย่างจุใจ ก่อนจะเริ่มวางแผนเดินทางต้องแวะมาอ่านบทความนี้ก่อน เดี๋ยวจะพลาดไปไม่ถูกที่ เสียดายแย่เลย
    ประเทศเกาหลีใต้มีฤดูกาลทั้งหมด 4 ฤดูกาลด้วยกัน ซึ่งในแต่ละฤดูจะมีสถานที่ให้ได้ทำกิจกรรมกันอย่างหลากหลาย เรียกได้ว่าเป็นประเทศที่มีแลนด์มาร์กแห่งการท่องเที่ยวทั้งประเทศเลยก็ว่าได้ และไม่ว่าคุณจะไปเกาหลีในฤดูกาลใด ก็จะมีสถานที่ท่องเที่ยวรองรับอยู่เสมอ ซึ่งในปัจจุบันการเดินทางไปเที่ยวเกาหลีสะดวกสบายมากขึ้น เพราะไม่ต้องขอวีซ่าแล้ว เพียงแต่จะต้องลงทะเบียนผ่าน K-ETA (Korea Electronic Travel Authorization) ก่อน โดยลง 1 ครั้ง จะมีอายุ 3 ปี นับจากนี้เรามาเริ่มวางแผนเที่ยวเกาหลีตามฤดูกันเถอะ
 

1. ฤดูใบไม้ผลิ

เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคม ถึงเดือนพฤษภาคม ถือว่าเป็นฤดูกาลที่มีสีสันและมีความสวยงามที่สุดสำหรับการไปเที่ยวเกาหลี ด้วยแสงแดดที่ส่องในปริมาณที่พอดี บวกกับอุณหภูมิที่อยู่ในช่วง 14-25 องศาเซลเซียส ทำให้ดอกไม้หลากหลายสีสันเบ่งบาน ต้นไม้ก็ผลิใบสีเขียวอ่อนสวยงาม และในช่วงปลายเดือนมีนาคม ถึงต้นเดือนเมษายนยังมีดอกพ็อดกด หรือดอกซากุระเกาหลีให้ชื่นชมความงามกันอีกด้วย

นอกจากนี้ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิยังมีสตรอว์เบอร์รีให้ได้ลองลิ้มชิมรสกันในราคาที่ไม่สูงมากด้วย และสำหรับสายถ่ายรูปและชื่นชมธรรมชาติ อย่าลืมแวะไปถ่ายภาพสวย ๆ พร้อมชมดอกไม้นานาพันธุ์ ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามของทะเลสาบได้ที่สวนป่ากรุงโซล และสวนสาธารณะทะเลสาบซอกชน ซึ่งต้องขอบอกว่า ทั้ง 2 สถานที่นี้ไม่ได้มีดีแค่ในฤดูใบไม้ผลิเท่านั้นนะ เพราะจะมีดอกไม้สลับกันเบ่งบานแตกต่างกันออกไปในแต่ละฤดูกาลด้วย
 

2. ฤดูร้อน

เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึงประมาณต้นเดือนกันยายน มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 24-38 องศาเซลเซียส สำหรับใครที่ต้องการไปเที่ยวในฤดูกาลนี้ จะเป็นช่วงฤดูกาลที่ตั๋วเครื่องบิน โรงแรม และที่พักมีราคาถูกลง แต่อย่าลืมพกหมวกหรือร่มติดตัวไปด้วย โดยที่เที่ยวเกาหลีในฤดูกาลนี้มีหลายกิจกรรมที่น่าสนใจเช่นกัน

เริ่มกันที่กิจกรรมสุดคลาสสิก ด้วยการไปปิกนิกที่สวนริมแม่น้ำฮัน แค่การได้ไปพักผ่อนที่นี่ก็มีกิจกรรมให้ทำครบทั้งวันแล้ว ทั้งการรับประทานอาหารกับครอบครัว, ชมวิวแม่น้ำฮัน, ปั่นจักรยาน, ข้ามไปเที่ยวเกาะยออิโดที่อยู่ในแม่น้ำฮัน, ล่องเรือชมแม่น้ำฮัน, จิบกาแฟในคาเฟ่บรรยากาศดี อย่างที่สตาร์บัคส์ลอยน้ำ ซึ่งตั้งอยู่ในอาคาร Seoul Wave Art Center และล่องเรือ Tubester ในแม่น้ำฮันช่วงบ่าย ๆ ถึงพลบค่ำ

ส่วนในยามค่ำคืน จะได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศสุดโรแมนติกที่สะพานน้ำพุสายรุ้งบันโพ เป็นสะพานข้ามแม่น้ำฮัน ซึ่งเป็นสะพานน้ำพุที่มีความยาวมากที่สุดในโลก

และสำหรับใครที่เป็นสายชิม ในช่วงฤดูร้อนอย่างนี้ต้องไปชิมอาหารทะเลสด ๆ ที่ปูซาน ซึ่งมีหลายร้านให้เลือก เช่น ตลาดแฮอึนแด (Haeundae Traditional Market) ที่รวบรวมอาหารทะเลสดใหม่มาให้บริการทุกวัน หรือไปกินออมุก ที่ร้านดังอย่าง Goraesa ถ้าใครชอบอาหารรสจัด ต้องลองไก่เผ็ดในตำนาน ร้าน Paik Chulpan หรือถ้าใครสายคาเฟ่ ต้องไม่พลาดร้าน Cup & Cup ที่เห็นวิวทะเล และมองเห็นสะพาน Gwangandaegyo แบบฟิน ๆ

และข้อควรระวังสำหรับการเที่ยวเกาหลีในฤดูร้อน คือ ในช่วงที่อากาศร้อนจัด ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนกรกฎาคม มีโอกาสที่จะเกิดลมพายุและฝนตกหนักได้ ดังนั้นควรตรวจสอบสภาพอากาศให้ดี หรือควรหลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมในช่วงที่มีฝนตกหนักในขณะที่ท่องเที่ยวอยู่
 

3. ฤดูใบไม้ร่วง

เริ่มตั้งแต่เดือนกันยายน ถึงเดือนพฤศจิกายน เป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เต็มไปด้วยสีสันและความสดใสของต้นไม้และดอกไม้นานาพันธุ์ ฤดูนี้มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 10-20 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับสายชิลไปนั่งทอดอารมณ์มองใบไม้เปลี่ยนสี เป็นสีเหลืองและสีแดง โดยเฉพาะที่ภูเขาแนจังชัน ที่จังหวัดชอลลาบุกโด จะมีวิวทิวทัศน์ที่สวยงาม มีท้องฟ้าเป็นสีฟ้าสดใส ตัดกับใบแปะก๊วยที่เปลี่ยนเป็นสีเหลืองออกประกายสีทองอร่ามทั้งต้น เคียงข้างกับต้นเมเปิลที่เปลี่ยนเป็นสีส้มสลับกับสีแดง หรืออีกหนึ่งสถานที่ที่ไม่ควรพลาดไปเก็บรูปเป็นที่ระลึกก็คือ อุทยานแห่งชาติซอรัคซาน ที่เกาะนามิ ที่เต็มไปด้วยใบไม้เปลี่ยนสีทั้งเกาะ หรือถ้าใครไม่อยากออกนอกโซล ก็มีถนนที่โรแมนติกอย่างถ็อกซูกุง (Deoksugung Stone-wall Road) ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีเรียงรายไปตลอดทั้งเส้น
 

4. ฤดูหนาว

เริ่มต้นในเดือนธันวาคม ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ มีอุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ -5-20 องศาเซลเซียส บรรยากาศสุดโรแมนติกที่หลายคนฝันถึง เหมือนในซีรีส์ที่เคยดู ฤดูกาลนี้เหมาะสำหรับการเล่นสกีหิมะ อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีเทศกาลตกปลาน้ำแข็ง และเทศกาลปีใหม่ให้ได้ชื่มชมบรรยากาศกันอีกด้วย

ใครอยู่กรุงโซลก็สามารถไปชมแสงสีเสียงสุดอลังการกันได้เลย หรือไปเล่นสเก็ตน้ำแข็งที่ลานสเก็ตกลางเมืองโซล ส่วนใครที่ต้องการเล่นสกีหิมะ ที่นี่ก็มีสกีรีสอร์ตเปิดให้บริการหลายแห่ง โดยแต่ละแห่งก็มีทั้งสิ่งอำนวยความสะดวก และระบบรักษาความปลอดภัยที่ทำให้อุ่นใจได้ และสำหรับสายเล่นสกี ต้องทราบก่อนว่า ที่ประเทศเกาหลีใต้เดือนที่หิมะตกหนักที่สุดก็คือช่วงเดือนมกราคม อีกทั้งยังเป็นช่วงที่มีอากาศหนาวเย็นที่สุดด้วยเช่นกัน ส่วนลานสกีรีสอร์ตที่อยากแนะนำ และไม่ไกลจากกรุงโซล คือ

• Jisan Forest Ski Resort และ Yangji Pine Resort Ski Valley ตั้งอยู่ที่จังหวัดคย็องกี
• Vivaldi Park Ski Resort และ Oak Valley Ski Resort ตั้งอยู่ที่จังหวัดคังว็อน

หรือจะเลือกไปเที่ยวที่สวนสนุกเอเวอร์แลนด์ ดินแดนแห่งความบันเทิงและความสุขที่อยู่ใกล้กับกรุงโซล ภายในมีเครื่องเล่นหลากหลายชนิด รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหาร และสวนสัตว์ซาฟารี โดยในฤดูหนาวนี้ก็จะมีความพิเศษกับ SNOW BUSTER ที่สามารถไปเล่นเลื่อนหิมะกันได้
    แนะนำที่เที่ยวกันจุใจแล้ว เราไปช็อปปิงกันบ้างดีกว่า ไปเที่ยวเกาหลีทั้งทีหากไม่ช็อปอะไรติดไม้ติดมือ หรือถ่ายรูปกับบรรยากาศร้านกาแฟน่ารัก ๆ ไปอวดเพื่อนเลย เดี๋ยวจะหาว่ามาไม่ถึงเกาหลีเอาได้ เราจะพาคุณไปเที่ยวไม่ให้ตกเทรนด์ ตามมาเลยว่ามีที่ไหนบ้าง
 

1. แหล่งของกินยอดฮิต

ชิมซีฟู้ดกันแบบสด ๆ ที่ Noryangjin Fish Market หรือที่รู้จักกันดีในชื่อตลาดปลานอร์ยางจิน ตั้งอยู่กลางกรุงโซล ที่ตลาดนี้จะขายอาหารทะเลกันสด ๆ ด้วยราคาส่งที่ไม่แพง มีทั้งปลา, ปูจักรพรรดิ, หอยชนิดต่าง ๆ และหมึกสด ๆ ซึ่งนอกจากความสดที่การันตีได้แล้ว เมื่อเลือกซื้อวัตถุดิบที่ต้องการได้ ยังสามารถใช้บริการปรุงอาหารมาเสิร์ฟให้ได้อีกด้วย

ร้านก๋วยเตี๋ยวคุณป้า ตั้งอยู่ที่ตลาดกวางจัง ร้านนี้มีชื่อว่าร้าน Cho Yonsoon’s Korean Handmade Noodle หรือร้านก๋วยเตี๋ยวคุณป้าจากสารคดีชื่อดัง Street Food ที่ฉายทาง Netflix โดยร้านนี้มีเมนูเด็ดคือ เกี๊ยวนึ่งชิ้นโต ห่อแป้งบาง ๆ เต็มปากเต็มคำ

ร้านปูดอง Jinmi Sikdang ร้านปูดองที่ได้รางวัลมิชลินถึง 2 ปีซ้อน ใครมากรุงโซลห้ามพลาดเด็ดขาด ร้านตั้งอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน Aeogae ตรงทางออกที่ 4 เมื่อเดินออกมาจากสถานีจะเจอปั๊มน้ำมันอยู่ข้างหน้า ให้เลี้ยวซ้ายเข้าซอยก่อนถึงปั๊มน้ำมัน และเดินไปอีกประมาณ 20 เมตรก็เจอหน้าร้านแล้ว

ร้านไก่ทอดกับเบียร์ BHC Chicken ร้านที่บรรดา Mukbang โปรดปรานจนติดอยู่ในรายชื่อร้านไก่ทอดต้องลอง ด้วยการเสิร์ฟเมนูไก่ทอดหนังกรอบ เนื้อข้างในชุ่มฉ่ำ โดยเมนูขึ้นชื่อของที่นี่ คือ ไก่ฟองดองท์ ทอดกับเกล็ดกุ้งและกระเทียม และเมนูไก่ไม่มีกระดูก Curry Queen ที่นำไก่ไปหมักกับผงกะหรี่ของอินเดีย และนำมาย่างกับกระเทียม

ร้านปิ้งย่างในกรุงโซล มาเที่ยวเกาหลีทั้งที อย่าลืมไปกินปิ้งย่าง ซึ่งที่กรุงโซลมีอยู่หลายร้านด้วยกัน เช่น ร้าน Hanam Pig เป็นต้น
 

2. ร้านกาแฟสุดน่ารัก

Mooni cafe ตั้งอยู่ที่ย่านอัพกูจอง ตกแต่งร้านสไตล์มินิมอล ที่มีขนมสุดคิ้วท์ให้ได้ชิม และถ่ายรูปกัน

Cafe Onion ที่มีด้วยกันทั้งหมด 3 สาขา อย่าง อันกุก ซองซู และตลาดกวางจัง โดยจะตกแต่งสไตล์บ้านเกาหลีโบราณ มีมุมถ่ายรูปเยอะ ขนมอร่อย สาย ๆ คนค่อนข้างแน่น อาจจะต้องเผื่อเวลาต่อคิว

Cafe Layered ตั้งอยู่ที่ย่านยอนนัม ร้านกาแฟสไตล์ Old English Classic ตกแต่งภายนอกด้วยอิฐแดง เจาะหน้าต่างสไตล์ยุโรป ภายในมีขนมให้เลือกมากมาย พร้อมกลิ่นกาแฟสดหอมหวล

Cafe Knotted ตั้งอยู่ในย่านชองดัม เป็นร้านโดนัทสุดคิ้วท์ สีสันสดใส หน้าตาขนมน่ารักจนอดใจไม่ได้ ได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีใต้ จนต้องขยายไปอีกหลายสาขา
 

3. แหล่งรวมเสื้อผ้าแฟชั่น

ตลาดทงแดมุน (Dongdaemun Shopping Complex) แหล่งช็อปปิงที่มีชื่อเสียงโด่งดังในกรุงโซล ใครไปเที่ยวเกาหลีต้องแวะไปช็อปที่นี่ให้ได้ เพราะมีทั้งแบบค้าส่ง ค้าปลีก มีหลายตึกให้เลือก เปิดให้ช็อปกันจนถึงเช้า

ย่านอิแทวอน (Itaewon) มีสีสันฉูดฉาดบาดตา และเต็มไปด้วยแหล่งช็อปปิงเพื่อเอาใจสาวกสายอาร์ต เปิดขายสินค้าแฟชั่นทั้งภายในประเทศ และที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ตั้งแต่เครื่องหนัง, รองเท้า, กระเป๋า, ของสะสม, ของโบราณ และของที่ระลึก และหนึ่งในเอกลักษณ์ของย่านนี้ คือ ร้านอาหารนานาชาติ คลับ บาร์ และร้านกินดื่มบรรยากาศดียามค่ำคืน

ห้างฮุนไดโซล (The Hyundai Seoul) ห้างสรรพสินค้าที่รวบรวมสินค้าแฟชั่นมากมาย มาอยู่ในที่เดียวกัน มาที่นี่ครบทั้งสายสตรีทยันสายลักชูรี ตั้งอยู่ที่กรุงโซล ด้วยคอนเซ็ปต์ยกธรรมชาติมาไว้กลางห้างสรรพสินค้า บรรยากาศภายในจึงเต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวสด รวมไปถึงร้านค้า ร้านอาหาร และร้านให้บริการอีกหลากหลายร้าน
 

4. แหล่งรวมความงามและเครื่องสำอาง

ถนนกาโรซูกิล (Garosu-gil Road) ตั้งอยู่ที่กรุงโซล เป็นถนนสายแฟชั่นที่มีความเป็น Unique สูง เอาใจสายฮิปที่ชื่นชอบฝีมือการออกแบบของศิลปินรุ่นใหม่ อย่าง แบรนด์ Tamburins แบรนด์ความงามที่มีพิกัดอยู่ที่กรุงโซล เปิดตัวครั้งแรกในปี 2017 โดยเน้นด้านการดูแลสุขภาพผิว เช่น สบู่อาบน้ำ ครีมทาผิว ครีมทามือ และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางทุกประเภท

Olive Young ร้านเครื่องสำอางที่รวมหลากหลายแบรนด์ดัง ครบเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้า ที่ใครเข้าไปก็ต้องมีของติดไม้ติดมือออกมา มีหลายสาขาอยู่ทั่วเกาหลี
  เริ่มต้นกันที่งาน Black Friday ที่จะจัดงานลดราคาสินค้ากันแบบกระหน่ำ จนกลายเป็นศึกของนักช็อปในทุก ๆ วันศุกร์ ของสัปดาห์ที่ 4 ในเดือนพฤศจิกายนของทุกปี งานนี้ยกพาเหรดสินค้ามาลดราคากันมากถึง 50%-80% เลยทีเดียว ใครที่รออยู่ห้ามพลาดเด็ดขาด และนอกจากสินค้าทั่วไปแล้ว ยังมีเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ดังที่นำมาลดราคาด้วยเช่นกัน

อีกสัก 1 งานกับ Korea Grand Sale 2566-2567 เริ่มจัดกันมาทุกปีตั้งแต่ปี 2009 แต่สำหรับปี 2024 นี้ จะมีความพิเศษมากกว่า คือ จะจัดลดราคาสินค้ากันแบบเหมือนแจกฟรีถึง 3 เดือนเต็ม โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นไป และมีห้างสรรพสินค้าชั้นนำเข้าร่วมเทศกาลกันอย่างคับคั่ง เช่น Hyundai Department Store, Doota, Galleria Luxury Hall, Duty Free Korea และ LOTTE Department Store เป็นต้น
  ไปเที่ยวเกาหลีทั้งที วางแผนกิน ช็อป ชิลกันแล้ว ก็ต้องวางแผนการเงินด้วย อยากเที่ยวให้คุ้ม ซื้อของให้ถูกไม่มีสิ่งนี้คงไม่ได้ บัตร Krungsri Boarding Card ที่ให้คุณแลกเงินได้เรทถูกจริง ไม่ต้องพกเงินสดมากมาย เงินหมดเมื่อไหร่ แลกเข้าบัตรได้ทันที สามารถตั้งซื้อเรทล่วงหน้าอัตโนมัติได้ อยากได้เรทเท่าไหร่ตั้งไว้ได้เลย พอเรทเงินมาถึงเรทที่ตั้งไว้ระบบจะแลกให้อัตโนมัติ หรือจะแค่ตั้งให้แจ้งเตือนก็ได้ สะดวกมาก จะช็อปร้านไหนๆรูดบัตรไม่มีชาร์จค่าธรรมเนียมเพิ่มอีก 2.5% แถมเช็กยอดที่ซื้อได้ว่าแต่ละวันซื้ออะไรไปบ้างผ่านแอพ สมัครง่ายผ่าน KMA krungsri app ใครยังไม่มีต้องรีบทำ รอรับบัตรเพียง 7 วัน จัดส่งถึงบ้าน

เที่ยวเกาหลีสามารถไปได้ตลอดทั้งปี วางแผนและเตรียมตัวกันให้ดี รับรองว่านักกิน นักช็อป นักชิลจะฟินและอยากกลับไปเที่ยวให้ครบทุกฤดูแน่นอน