การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment)

โดย สิรภัทร เกาฏีระ CFP® นักวางแผนการเงิน
17 สิงหาคม 2565
การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment)

การลงทุนทางเลือก ลงทุนในสินทรัพย์อื่นๆ กระจายความเสี่ยงการลงทุน
การลงทุนทางเลือก Alternative Investment คืออะไร ลงทุนอย่างไรบ้าง


หลายๆ คนคงเคยได้ยินคำพูดว่า “Don't put all your eggs in one basket” แปลตรงๆ “อย่าเอาไข่ทั้งหมดใส่ไว้ในตะกร้าใบเดียว” เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่สามารถล่วงรู้ได้ ถ้าเรารู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรขึ้นเราก็ไม่ต้องมาจัดพอร์ตการลงทุนให้เสียเวลา ดังนั้นเมื่อเราไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหนทางที่เหมาะสมที่สุดคือการกระจายความเสี่ยง จากข้อเท็จจริงเราจะพบว่าสินทรัพย์แต่ละประเภทจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นในสถานะที่แตกต่างกัน เช่น หุ้นจะให้ผลตอบแทนที่สูงในช่วงที่เศรษฐกิจเติบโต หรือการลงทุนทางเลือกอื่นอย่างทองคำจะให้ผลตอบแทนในช่วงที่เกิดภาวะไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เป็นต้น
 
การลงทุนทางเลือก
 
นักลงทุนมืออาชีพที่สร้างผลตอบแทนได้สม่ำเสมอนั้น ส่วนใหญ่จะเลือกลงทุนกับสินทรัพย์ หลาย ๆ ประเภทเพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง หรือลดความไม่แน่นอนลง เหมือนที่เราเคยได้ยินคำพูดหนึ่งเวลาหุ้นลงเวลามีเหตุการณ์บางอย่างที่ยังไม่ได้ข้อสรุปคือ “นักลงทุนไม่ชอบความไม่แน่นอน ขายหุ้นทิ้งก่อนดีกว่า”

เราจึงขอหยิบยกวิธีการกระจายความเสี่ยงด้วยสินทรัพย์ที่หลากหลายมาอธิบายรายละเอียดให้พวกเราได้ทราบกัน
 

การลงทุนทางเลือก (Alternative Investment)

การเลือกลงทุนกับสินทรัพย์ที่มีความหลากหลายเพื่อกระจายความเสี่ยง คือ การเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนในรูปแบบที่แตกต่างกัน เพราะในแต่ละช่วงเวลา และภาวะแวดล้อมที่แตกต่างกันสินทรัพย์แต่ละประเภทจะให้ผลตอบแทนที่ไม่เท่ากัน หรือแม้แต่ตรงกันข้ามกันได้ ถ้าหากเรามีการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเภทกันหลายๆ ประเภท จะยิ่งทำให้เรากระจายความเสี่ยงได้ดีขึ้น
 
การลงทุนทางเลือก

ปกติแล้วเราจะนิยามของสินทรัพย์พื้นฐาน (Traditional Assets) เช่น หุ้น หุ้นกู้ พันธบัตร กองทุนรวม เป็นต้น เป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนทั่วไปรู้จัก มีการซื้อขายเป็นวงกว้างอยู่ในตลาดทุน และมักมีความสัมพันธ์ไปในทิศทางเดียวกัน เช่น ถ้าทิศทางเศรฐกิจดีก็มีแนวโน้มของผลตอบแทนเป็นบวก ในขณะเดียวกันหากมีทิศทางตรงข้าม ก็อาจเกิดผลตอบแทนเป็นลบได้ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงความสัมพันธ์ดังกล่าว สินทรัพย์ทางเลือก จึงเป็นคำตอบหนึ่ง และการลงทุนในสินทรัพย์เหล่านี้เรียกว่า “การลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือก (Alternative Investment)” นั่นเอง
 

การลงทุนทางเลือก แบบไหนที่ควรรู้

เนื่องจากสินทรัพย์ทางเลือกมีหลากหลายชนิด ส่วนใหญ่ผลตอบแทนมักจะไม่มีความสัมพันธ์ หรือความสัมพันธ์ผกผันกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งสินทรัพย์ทางเลือกที่นักลงทุนรู้จักกันดี และมีการซื้อขายกันเป็นวงกว้าง คือ ทองคำ และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีคุณสมบัติ และข้อจำกัดที่เราควรทราบดังนี้
 

ลงทุนทองคำ

 
การลงทุนทางเลือก

ทองคำ คือ หนึ่งในสินทรัพย์ปลอดภัยที่ใช้อ้างอิงมูลค่าเงิน อัตราเงินเฟ้อก็มักนิยมเทียบกับราคาทองคำ นอกจากนี้ทองคำยังเป็นเครื่องประดับ และสินค้าอุปโภคบริโภคอีกด้วย อย่างไรก็ทองคำเป็นโลหะที่มีความแข็งแรงต่ำเป็นธรรมดาที่จะเสียหายได้ง่าย เช่น บุบ เสียดสี สึกหรอ โดยทุกความเสียหายย่อมกระทบต่อน้ำหนักของทองคำไม่มากก็น้อย เช่น การสวมแหวนทำงานบ้าน ก็ทำให้เกิดการเสียดสีจนน้ำหนักหายได้ หรือหากสร้อยขาด อาจมีข้อใดข้อหนึ่งของทองหลุดหายไปโดยที่ไม่รู้ตัว ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังในการเก็บรักษาด้วย อย่างไรก็ตาม การถือทองคำในระยะยาวก็ยังเป็นการลงทุนที่นักลงทุนส่วนมากเลือกอยู่ เพราะในระยะยาวมูลค่าของทองคำไม่ลดลงนั่นเอง
 

ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์

 
การลงทุนทางเลือก

อสังหาริมทรัพย์ เป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูง และเป็นสินทรัพย์ที่คนนิยมลงทุนกันมาทุกยุคทุกสมัย ไม่ว่าจะเป็นที่ดิน บ้าน หอพัก ตึกแถว คอนโดมิเนียม เพื่อขายต่อหรือให้เช่า ซึ่งแต่ละทำเลก็มีความเหมาะสมในวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ทำให้มีปริมาณ (ทำเล) ที่จำกัด ทำให้ในอสังหาริมทรัพย์ในบางทำเลสามารถเพิ่มมูลค่าได้อย่างมากเมื่อมีการพัฒนาเข้าไปถึงยังทำเลเหล่านั้น ข้อจำกัดคืออสังหาริมทรัพย์นั้นเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องต่ำ การขายต่อหรือการปล่อยเช่าขึ้นอยู่กับทำเลและโอกาส ต้องถือไว้นานพอมูลค่าจึงจะเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต้องจ่ายด้วย

จากข้อจำกัดดังกล่าว จึงมีอีกทางเลือกหนึ่งในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ คือ การลงทุนผ่านกองทุนอสังหาริมทรัพย์ โดยจะมีผู้บริหารกองทุนคอยบริหารอสังหาริมทรัพย์ในกองทุนที่เราเลือก และบางกองทุนก็มีตลาดรองในการซื้อขายกองทุนอีกด้วย ซึ่งจะมีข้อดีกว่าการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ด้วยนักลงทุนเอง คือ ไม่ต้องเสียเวลาในการบริหารจัดการ และมีสภาพคล่องที่ดีกว่านั่นเอง
 

ลงทุนในสินค้าเฉพาะกลุ่ม

 
การลงทุนทางเลือก

นอกเหนือจากนี้ก็ยังมีสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกหลายประเภท ตัวอย่างเช่น สินทรัพย์ในตลาด Niche Market หรือสินค้าในตลาดเฉพาะกลุ่ม ซึ่งภายในกลุ่มจะต้องมีกำลังซื้อมากพอที่จะผลักดันให้ผลตอบแทนจากการลงทุนเป็นไปอย่างคุ้มค่า การลงทุนในลักษณะนี้คือการลงทุนในของสะสม หรือสินค้าฟุ่มเฟือยต่างๆ ถ้าคนซื้อมีความคลั่งไคล้ (Passion) ในสิ่งนั้นจริงๆ และมีกำลังซื้อมากพอ ประกอบกับสินทรัพย์นั้นมีปริมาณน้อยมากๆ ก็จะให้ผลตอบแทนในการลงทุนสูงมากชนิดที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว ซึ่งการลงทุนในลักษณะนี้ต้องมีความรู้ในสิ่งนั้นจริงๆ เพราะไม่ใช่สินค้าประเภทนี้จะให้ผลตอบแทนในระดับเดียวกันได้ทั้งหมด และเป็นสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องที่ต่ำมาก ผู้ซื้อ / ผู้ขายต้องหากันให้เจอ มิเช่นนั้นจะไม่เกิดการซื้อขายกันเกิดขึ้น สินค้าประเภทนี้ที่นิยมในปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น
 

ลงทุนในสินค้าแบรนด์เนม

สินค้าแบรนด์เนม คือ สินค้าที่มีมูลค่าตามยี่ห้อของผู้ผลิต เป็นสินค้าที่มีราคาสูง ไม่ได้เน้นที่ประโยชน์ใช้งานโดยตรง มักจะใช้เป็นเครื่องประดับเพื่อเน้นความสวยงาม หรูหรา แสดงถึงฐานะของผู้ที่เป็นเจ้าของ สินค้าที่เราคุ้นเคยก็เช่น นาฬิกา รถหรู สำหรับผู้ชาย และ กระเป๋า เครื่องประดับ สำหรับผู้หญิง สินค้าประเภทนี้มักจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป คือ สินค้าที่มีรุ่น แบบ และสีที่คลาสสิค หรือผลิตจำนวนจำกัด ถ้าหากเก็บรักษาไว้ให้อยู่ในสภาพดี เมื่อนำมาขายต่อ (Resell) จะสามารถขายได้ในราคาที่ไม่ต่ำกว่าต้นทุนที่ซื้อมา เพราะมีการบวกกำไรในความเก่าแก่ และจำนวนที่จำกัดนั่นเอง
 

ลงทุนในวัตถุมงคล

วัตถุมงคล เป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความศรัธราในตัวของวัตถุมงคลว่าจะช่วยให้ผู้ที่ครอบครองไว้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายหรือสมความปรารถนาในเรื่องต่างๆ ที่เป็นที่นิยมในไทย เช่น ผ้ายันต์ พระเครื่อง เป็นต้น มูลค่าของวัตถุมงคลขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยที่บางชิ้นมีความเก่าหายาก ความเลื่อมใสศรัทธาในตัวของผู้สร้างวัตถุมงคล รวมถึงประสบการณ์ที่ผู้ครอบครองได้ประสบพบมา ทำให้คาดเดามูลค่าได้ยาก
 

ลงทุนในของสะสม

ของสะสม เป็นสินทรัพย์ที่ให้ประโยชน์ทางใจ สร้างความสุขให้กับผู้ที่ได้ครอบครอง อาทิเช่น สแตมป์ งานศิลปะ ตุ๊กตา ของเล่น และสินค้าอะไรก็ได้ที่ผู้ครอบครองพึงพอใจ มูลค่าของสินทรัพย์ประเภทนี้จะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของเจ้าของ และผู้ปรารถนาจะครอบครองต่อ ไม่มีมาตราวัดชั่งตวงวัดที่ตายตัวผู้มีใจรักต่างพร้อมดั้นด้นแสวงหามาครอบครองเป็นปัจจัยที่ทำให้การลงทุนประเภทนี้ มักจะซื้อขายด้วยวิธีการประมูล และราคาขายในแต่ละครั้งจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมาก
 

ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล

ในปัจจุบันนอกจากสินทรัพย์ทางเลือกที่มีตัวตนจับได้แล้วยังมีสิทรัพย์ทางเลือกที่อยู่ในรูปดิจิทัล ซึ่งมีความต้องการครอบครองมากมายไม่ว่าจะเป็น ไอเท็มในเกมส์ออนไลน์ ตัวละครในเกมส์ NFT และ Cryptocurrency ซึ่งสินทรัพย์เหล่านี้จะมีประโยชน์ใช้สอยขึ้นอยู่กับแพลตฟอร์มที่มารองรับ เช่น เกมส์ เว็บไซต์ หรือเครือข่ายที่ให้บริการอยู่ หากไม่อยู่ในแพลตฟอร์มที่รองรับก็จะไม่สามารถใช้ประโยชน์ใดๆ ได้ ในส่วนของมูลค่านั้นจะขึ้นอยู่กับประโยชน์โดยตัวของสินทรัพย์ดิจิทัลเอง บางชนิดก่อนให้เกิดรายได้ หรือช่วยประหยัดเวลาในการเล่นเกมส์ หรือสร้างความความพึงพอใจในการถือครอง (เช่นเดียวกับของสะสม) ซึ่งมีข้อแตกต่างกับสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ที่ได้กล่าวมาก่อนหน้าตรงที่สินทรัพย์ดิจิทัลนั้นไม่มีค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษา (Storage Cost) ผู้ครอบครองเพียงแค่ต้องระมัดระวังชื่อผู้ใช้งาน (Username) และรหัสผ่าน (Password) ให้ปลอดภัยเท่านั้น
 

การลงทุนทางเลือก ควรลงทุนหรือไม่

 
การลงทุนทางเลือก

การลงทุนทางเลือก สามารถแก้ไขข้อจำกัดของการกระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ดั้งเดิม ที่ไม่สามารถลดความเสี่ยงทางการลงทุนได้อย่างแท้จริง เนื่องจากสินทรัพย์ทางเลือกมักมีผลตอบแทนที่เป็นลักษณะเฉพาะ และไม่อ้างอิงกับตลาดทุน สินทรัพย์ทางเลือกมักให้ผลตอบแทนโดยเฉลี่ยชนะการลงทุนแบบดั้งเดิม เพราะผลตอบแทนที่ได้ ไม่ได้อ้างอิงกับอัตราเงินฝาก และอัตราเงินเฟ้อ ทำให้อัตราผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของการลงทุนทางเลือก สูงกว่าการลงทุนแบบดั้งเดิม

อย่างไรก็ตามสินทรัพย์ทางเลือกก็มีข้อจำกัด ไม่ว่าจะเป็นความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสินทรัพย์ทางเลือกนั้นๆ อย่างถ่องแท้ ซึ่งบางสินทรัพย์ก็หาข้อมูลได้ยาก รวมถึงสินทรัพย์ทางเลือกส่วนใหญ่จะมีสภาพคล่องที่ต่ำเวลาต้องการซื้อขายอาจจะต้องใช้เวลานาน อีกทั้งความเสี่ยงที่บางสินทรัพย์ไม่ได้รับการรองรับด้วยกฎหมายอีกด้วย

สุดท้ายนี้ ทุกการลงทุนมีความเสี่ยง แม้จะเป็นการลงทุนดูว่าที่มั่นคงก็อาจมีเหตุให้ขาดทุนได้อยู่ดี ดังนั้นควรมีการวางแผนและพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ และในบางครั้งผลตอบแทนอาจไม่ได้มาในรูปแบบเม็ดเงินอย่างเดียวแต่มาในรูปแบบของความพึงพอใจ

หากคุณต้องการปรึกษาเกี่ยวกับการวางแผนการเงินหรือมีคำถามเกี่ยวกับการเงินและการลงทุนทั้งหลาย สามารถปรึกษาผ่านช่องทางฮอตไลน์ได้ที่ 02-296-5959 จันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. หรือฝากข้อมูลเพื่อให้ที่ปรึกษาทางด้านการเงินจาก KRUNGSRI PRIME ติดต่อกลับ
สนใจร่วมเป็นลูกค้า ด้วยการเลือก KRUNGSRI PRIME ต่อยอดเงินให้เติบโต​
KRUNGSRI PRIME ช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายทางการเงินได้เร็วขึ้น พร้อมเพิ่มความมั่งคั่งทางการเงิน และต่อยอดเงินล้านของคุณให้เติบโตสู่ล้านถัดๆไป นอกจากนี้ KRUNGSRI PRIME ยังมอบความพิเศษด้วยสิทธิ์ต่างๆทั้งด้านการเงินและไลฟ์สไตล์ที่ถูกคัดสรรมาให้แก่ลูกค้าคนพิเศษเช่นคุณ