การออมเงินได้บ้าง ไม่ได้บ้าง เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้มนุษย์เงินเดือนหลายคน ห่างไกลเป้าหมายออกไปทุกที เช่นอยากมีบ้าน มีรถ ไปเที่ยว ฯลฯ
แต่วันนี้การบริหารการใช้จ่ายจะง่ายขึ้น แค่มีตัวช่วยอย่าง
“ปฏิทินออมเงิน” ที่จะช่วยสร้างวินัย
การออมของคุณ ตั้งแต่ต้นปีถึงปลายปี เพื่อให้คุณเก็บเงินได้ด้วยตัวเอง
เริ่มต้นจาก การตั้งเป้าเงินออมแต่ละเดือน
เราแนะนำให้ตั้งเป้าออมที่ 10 - 20% ของรายได้
1. วันเงินเดือนออก - หักเศษเงินเดือนเข้าบัญชีเงินออม
มนุษย์เงินเดือนทุกคนถูกหักประกันสังคมทุกเดือนอยู่แล้วสูงสุด 750 บาท ทำให้เหลือเศษไม่เต็มจำนวนเงินเดือน ตรงนี้ให้หักออมเงินโอนเข้าบัญชีเงินออมไว้ก่อนเลย นอกจากจะทำให้เริ่มมีเงินออมที่ไม่หายไปทั้งก้อนแล้วยังได้ดอกเบี้ยอัตโนมัติด้วย เช่น เงินเดือน 15,000 หักประกันสังคม หักภาษีแล้ว อาจจะเหลือ 12,825 บาท ลองโอนเงิน 825 บาทนี้ เข้าบัญชีเงินออมไว้เลยตั้งแต่ต้นเดือน
2. วันทำงาน - เหลือเงินให้เก็บออม
ค่าใช้จ่ายประจำในวันทำงาน อาจมีบางวันที่เหลือเงินเก็บกลับบ้าน แต่ส่วนใหญ่ไม่เลือกเก็บออม แต่ไปสมทบกับค่าใช้จ่าย ในวันถัดไปแทน ดังนั้นเพื่อให้มีเงินออมมากขึ้น
เมื่อมีเงินเหลือให้เลือกเก็บทันที ซึ่งหากมาลองคิดดู สมมุติว่าเหลือวันละ 40 บาท เฉพาะวันทำงาน 22 วัน ครบ 1 เดือน เราก็จะมีเงินออมเพิ่มอีก 880 บาทต่อเดือน
3. วันหยุด - ตั้งงบค่าใช้จ่าย
ความเพลิดเพลินในการใช้จ่ายนี่แหละ ที่เป็นปัญหาใหญ่ที่ทำให้เงินออมของเราได้มากบ้าง น้อยบ้าง โดยเฉพาะวันหยุดปกติและวันหยุดพิเศษ ซึ่งเรามักจะหมดไปกับ ค่าอาหาร เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ วิธีแก้ไขให้เรากำหนดงบค่าใช้จ่ายตามใจเราให้ไม่เกิน 30% ในทุกๆเดือน ก็จะช่วยเราวางแผนค่าใช้จ่ายได้ดีขึ้นเพื่อมีเงินออมที่สม่ำเสมอ
4. วันภาษีสังคม - โอนเข้าบัญชี 50% จากที่ใช้จ่ายไป
ใน 1 เดือนจะมีวันที่เราต้องเสียภาษีสังคมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งส่วนใหญ่นั่นก็มักจะนัดกันในวันศุกร์ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้ งานแต่ง งานวันเกิดเจ้านาย ฯลฯ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ รวมๆ กันแล้วอาจทำให้กระเป๋าเราบางลงได้เหมือนกัน สิ่งที่ต้องทำก็คือเสียภาษีสังคมไปกี่บาท ก็ให้โอนเข้าบัญชีเงินออมหลังจากงานเสร็จทันที 50% ของที่จ่ายไป วิธีนี้อาจดูโหดร้าย แต่จะช่วยทำให้เรามีเงินออมที่สม่ำเสมอเพราะเราจะเลือกเฉพาะงานสังคมที่สำคัญและควรไปจริง ๆ แถมเป็นการบังคับตัวเองให้ออมไปในตัว
5. วันก่อนสิ้นเดือน - สรุปผลลัพธ์เงินเก็บออม
ก่อนสิ้นเดือน 1 วัน ให้เป็นวันการสรุปผลเงินออมว่าสำเร็จครบตามเป้าหมายไหม เช่น ถ้าตั้งเป้าไว้ 20% ถ้าได้ครบตามเป้า เราก็ออมตามแผนเดิม หรือถ้ายังต่ำกว่าเป้าไปเล็กน้อย ถ้าเดือนนั้นยังพอมีเงินเหลือ อาจเติมเงินออมเพิ่ม แต่ถ้ายังไงก็ออมได้ไม่ครบ ก็จดบันทึกไว้ และลองวางแผนว่าเดือนถัดไป เราจะลดรายจ่ายหรือหาทางออมเพิ่มยังไง จะได้มีเงินออมได้ตามเป้าหมายทุกเดือน
ลองทำตามทริคง่าย ๆ หาโอกาสออมเงินในทุก ๆ วัน แล้วคุณจะพบว่าการออมเงินกลายเป็นเรื่องสนุก ทำให้คุณรักการออม และช่วยพาคุณไปสู่เป้าหมายที่ต้องการได้ในไม่ช้า