สังคมไทยอยู่ในภาวะ “รวยกระจุก จนกระจาย” คนส่วนน้อยรวย คนส่วนใหญ่ยังคงยากจน เนื่องจากขาดความรู้เรื่องการเงินส่วนบุคคล และไม่ใช้โอกาสที่ผ่านเข้ามาในชีวิตสร้างฐานะความเป็นอยู่ให้ดี ทำให้รายได้เพิ่มขึ้นช้าไม่ทันกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ต้องไปกู้หนี้ยืมสินทั้งในและนอกระบบ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นหนี้บ้าน หนี้รถ และสินเชื่อส่วนบุคคล
บางคนโชคดีพ่อแม่มีฐานะ จึงเหนื่อยน้อยหน่อยในการรักษาความมั่งคั่งให้กับคนรุ่นต่อไป บางคนโชคดีกว่าพ่อแม่ แม้จะมีฐานะไม่สู้ดีก็มีโอกาสแสดงฝีมืออย่างเต็มที่สร้างเนื้อสร้างตัวกันขึ้นมาเอง จงจำไว้ว่า “คนเรารวยทันกันเสมอขึ้นอยู่กับโอกาส ไอเดีย และลงมือทำ”
ปัจจุบันยุคดิจิทัลนิยมสื่อสารกันผ่านอุปกรณ์ที่สำคัญอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต พกติดตัวไปไหนมาไหนได้ทุกที่ คนรุ่นใหม่จับโอกาสเป็นเห็นทางรวย ศึกษาเรื่องการลงทุนยุคดิจิทัลจนสามารถเปลี่ยนไอเดียเป็นเงินล้านได้ เพราะการทำธุรกรรมออนไลน์เข้าใจง่าย ต้นทุนต่ำ เชื่อมต่อทุกสังคมจากทุกมุมโลก ทำให้การค้าขาย การตลาด การเงิน และการลงทุนยุคดิจิทัลเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงจำเป็นต้องเรียนรู้ให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงในยุคนี้ครับ
จงจำไว้ว่า “คนเรารวยทันกันเสมอขึ้นอยู่กับโอกาส ไอเดีย และลงมือทำ”
การออมเป็นการเรียนรู้ที่จะจัดเก็บเงินมาเป็นทุนเริ่มต้นชีวิต ตอนเด็กพ่อแม่สอนให้เก็บเงินที่เหลือจากค่าขนมไปโรงเรียนมาหยอดกระปุกหมูเอาไว้เป็นประจำทุกวันเพื่อสร้างวินัยการออม พอเก็บเงินได้สักพักพ่อแม่ก็พาไปเปิดบัญชีออมทรัพย์ที่ธนาคารเพื่อสอนวิธีทำเงินให้งอกเงยด้วยการรับดอกเบี้ยสม่ำเสมอจากเงินฝากธนาคาร เก็บเล็กผสมน้อยจนเป็นเงินก้อนโตพอเป็นทุนสร้างฐานะให้มั่นคง บางบ้านพ่อแม่ใช้วิธีสมทบเงินให้เท่ากับเงินที่ลูกออมได้ เพื่อกระตุ้นให้เด็กออมเงินมากขึ้นและรู้สึกสนุกกับการออม และเมื่อโตขึ้นอีกหน่อยก็เริ่มสอนให้กระจายลงทุนผ่านธุรกรรมออนไลน์
ยุคสมัยเปลี่ยน เทคโนโลยีเปลี่ยน รูปแบบการออมก็ควรเปลี่ยนมาใช้ “กระปุกหมูยุคดิจิตอล” ผมหมายถึง การออมรูปแบบต่าง ๆ หรือการลงทุนยุคดิจิทัลที่ดำเนินการผ่านช่องทางออนไลน์ที่ธนาคารหรือสถาบันการเงินมีให้บริการ เดี๋ยวนี้เค้ามีให้บริการในเว็บไซต์ (Internet Banking) และเป็นแอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ (Mobile Banking) ทั้งสะดวกสบายและปลอดภัยในการใช้งาน คนเริ่มหันมาใช้กระปุกหมูยุคดิจิทัลกันเยอะ เพราะทำให้การออมเป็นเรื่องง่ายและช่องทางการออมมีให้เลือกหลายอย่าง โยกย้ายเงินได้ตามความพอใจ ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางและรอคิวนาน ทั้งยังสะดวกต่อการกระจายการลงทุนผ่านธุรกรรมออนไลน์อีกด้วย มาดูกันครับว่าช่องทางการออมออนไลน์มีอะไรน่าสนใจบ้าง
เป็นการเปิดใช้บริการบัญชีธนาคารออนไลน์ควบคู่กับสมุดบัญชีเงินฝาก ควรเลือกเปิดกับธนาคารที่ใช้อยู่เป็นประจำหรือธนาคารที่ให้ดอกเบี้ยเงินฝากสูง ประโยชน์ของการออมกับธนาคารออนไลน์คือ ทำธุรกรรมการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา เช่น เช็คยอดเงินคงเหลือ เช็ครายการฝากถอน ทำให้รู้ประวัติการใช้จ่ายและการออมของคุณ การโอนเงินเข้าออกจากบัญชีเงินฝาก ทำให้โยกย้ายเงินไปออมที่ต่าง ๆ และกระจายลงทุนผ่านธุรกรรมออนไลน์ได้สะดวก หากเป็นคนที่เก็บเงินไม่ค่อยอยู่ แนะนำให้เปิดเพิ่มอีกหนึ่งบัญชีไว้ออมโดยเฉพาะไม่ถอนออก เวลาได้รับเงินเดือนก็หักเงินบางส่วนโอนเข้ามาเก็บไว้ที่บัญชีนี้ทุกเดือน
อีกหนึ่งแนวทางการลงทุนยุคดิจิทัลคือการเปิดบัญชีกองทุนรวมออนไลน์ควบคู่กับสมุดบัญชีกองทุนรวม เพื่อเปิดโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงิน มีทั้งกองทุนที่ลงทุนในตราสารหนี้ทั้งในและต่างประเทศ หุ้นกู้บริษัทเอกชน หุ้นในและต่างประเทศ ทองคำ น้ำมัน ฯลฯ ประโยชน์ของการออมกับกองทุนรวมออนไลน์คือ การติดตามมูลค่าแต่ละกองทุนที่คุณซื้อหน่วยลงทุนไว้ดูได้ตลอดเวลา การซื้อขาย สับเปลี่ยนกองทุน เปิดกองทุนใหม่ได้สะดวกมากไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาธนาคาร ช่วยให้บริหารเงินออมอย่างมีประสิทธิภาพ หากเป็นมนุษย์เงินเดือนแนะนำให้ซื้อกองทุนรวม RMF หรือ SSF เพื่อลดหย่อนภาษีและได้รับผลตอบแทนจากการลงทุน
การเปิดบัญชีซื้อขายหลักทรัพย์เป็นการลงทุนยุคดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากขึ้น นักลงทุนสามารถลงโปรแกรมซื้อขายหลักทรัพย์ Streaming เพื่อซื้อขายหุ้นด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ ประโยชน์ของการออมกับหุ้นออนไลน์คือ การสั่งซื้อขายหุ้นตัดสินใจได้ทันทีไม่ต้องรอติดต่อโบรกเกอร์ ค่อย ๆ ทยอยซื้อสะสมหุ้นตามแผนการออมการลงทุนของคุณโดยไม่ต้องเกรงใจใคร หากต้องการเน้นผลตอบแทนสม่ำเสมอ นอกจากหุ้นปันผลแล้ว ยังมีกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ที่เข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการออมและการลงทุนยุคดิจิทัล
สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณธนาคารกรุงศรีอยุธยาที่เปิดโอกาสให้แชร์แนวคิดการเงินส่วนบุคคล และขอย้ำเพื่อน ๆว่า การออมและรู้จักทำงานให้งอกเงยด้วยการลงทุนในยุคดิจิทัลแบบนี้เป็นพื้นฐานอย่างหนึ่งของความมั่งคั่งและมั่นคง ขอให้ประสบความสำเร็จในการออมกันนะครับ