มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนอะไรดี?
เพื่อชีวิตสบาย
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

มนุษย์เงินเดือนควรลงทุนอะไรดี?

icon-access-time Posted On 25 พฤศจิกายน 2558
By Krungsri the COACH
เพื่อน ๆ ที่ทำงานประจำมักมีข้อจำกัดด้านเวลา เนื่องจากต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อวันให้กับงาน ดังนั้น หนึ่งในวิธีการสร้างความมั่งคั่งของคนที่ทำงานประจำ คือ การสร้างผลประโยชน์จากการลงทุน หรือการใช้ให้เงินทำงานนั่นเอง แต่จะลงทุนอะไรดีที่ใช้เวลาในการดูแลไม่มาก แต่ให้ผลตอบแทนในอัตราที่พึงพอใจ วันนี้ ผมขอนำขั้นตอนการวางแผนและรูปแบบการลงทุนที่เหมาะกับคนทำงานยุคนี้มานำเสนอครับ

สำรวจความสามารถในการลงทุน

 
ก่อนคิดว่าจะลงทุนอะไรดี เราต้องตรวจดูสภาพคล่องของกระเป๋าเงินเราก่อนครับ ว่ามีเงินที่จะนำไปลงทุนได้จำนวนเท่าไหร่ รวมถึงการประมาณการณ์ว่าเราจะแบ่งเงินในแต่ละเดือนมาลงทุนอะไรดีถึงจะได้ค่าตอบแทนที่พึงพอใจ โดยเงินลงทุน คือ เงินออมส่วนที่เหลือจากเงินสำรองไว้สำหรับการใช้จ่ายฉุกเฉิน ซึ่งควรเตรียมไว้อย่างน้อยเท่ากับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน เป็นระยะเวลา 3-6 เดือน เราควรเก็บเงินสำรองส่วนนี้แยกเอาไว้ต่างหากครับ เพื่อสร้างสภาพคล่องในกรณีถูกสั่งเลิกจ้างกะทันหัน หรืออาจมีเหตุฉุกเฉินในครอบครัว เงินส่วนนี้สามารถนำไปพักไว้ในแหล่งพักเงินที่มีความเสี่ยงต่ำ สภาพคล่องสูง เช่น บัญชีออมทรัพย์ หรือกองทุนรวมพันธบัตรครับ (ตรวจสุขภาพทางการเงิน ฉบับนักลงทุนสไตล์มนุษย์เงินเดือน)

เลือกรูปแบบการลงทุน

 
ผมขอแนะนำรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับมนุษย์เงินเดือน ดังนี้ครับ
 
ลงทุนอะไรดีเพื่อให้ได้ผลประโยชน์ทางภาษี
มนุษย์เงินเดือนอย่างเราต้องไม่พลาดการลงทุนดังต่อไปนี้ครับ เพราะนอกจากการนำเงินลงทุนในแต่ละปีไปหักภาษีได้แล้ว ยังเป็นการสร้างมูลค่าให้กับเงินลงทุนอีกด้วยครับ
 
ลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ  (ผลประโยชน์ = เงินลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อหน่วยลงทุน + ส่วนสมทบจากนายจ้าง + มูลค่าเพิ่มจากการดำเนินงานของกองทุน)
 
ลงทุนในกองทุนรวม LTF  (ผลประโยชน์ = เงินลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อหน่วยลงทุน + มูลค่าเพิ่มจากการดำเนินงานของกองทุน)
 
ลงทุนในกองทุนรวม RMF  (ผลประโยชน์ = เงินลดหย่อนภาษีจากค่าซื้อหน่วยลงทุน + มูลค่าเพิ่มจากการดำเนินงานของกองทุน)
 
ประกันชีวิต  (ผลประโยชน์ = เงินลดหย่อนภาษีจากการชำระค่าเบี้ยประกันในแต่ละปี + เงินคืนเมื่อครบกำหนดสัญญา)
การลงทุนเพื่อผลประโยชน์ทางภาษีนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นการลงทุนในระยะยาว อย่างเร็วที่สุด คือ การลงทุนใน LTF ซึ่งมีช่วงเวลาในการลงทุนอย่างน้อย 5 ปีปฏิทิน ดังนั้น ก่อนจะตั้งคำถามว่าลงทุนอะไรดีทุกครั้ง อย่าลืมคำนึงถึงสภาพคล่องตลอดระยะเวลาของที่ลงทุนด้วยนะครับ
นอกจากนี้ หากเรายังมีเงินเหลือที่สามารถนำไปลงทุนได้อีก เราก็ยังมีการลงทุนอื่น ๆ ซึ่งเป็นทางเลือกเพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากเงินในบัญชีออมทรัพย์ครับ 

ตั้งเป้าหมายการลงทุน

 
สำหรับการเลือกวิธีลงทุนนั้น เราควรเลือกวิธีที่ตอบโจทย์กับเป้าหมายการออมของเรา เช่น บางคนต้องการการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าการฝากออมทรัพย์ที่ 0.5% หรือบางคนต้องการลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่สูงกว่าอัตราเงินเฟ้อที่ประมาณ 2.5-4% ทั้งนี้ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนบวกกับความชอบและสไตล์การลงทุน จะทำให้เราเลือกรูปแบบที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ตัวเองได้อย่างเหมาะสม รูปแบบการลงทุนอื่น ๆ ที่น่าสนใจ เช่น
 
เงินฝากประจำ หนึ่งในช่องทางการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ได้รับผลตอบแทนประมาณ 1-2.5 % ขึ้นอยู่กับระยะเวลาในการฝาก
 
กองทุนรวม เหมาะกับนักลงทุนที่ไม่มีเวลาติดตามความเคลื่อนไหวของตลาดมากนัก ผลตอบแทนและความเสี่ยงมีหลายระดับขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่ลงทุน
 
หุ้น เหมาะสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีเวลาติดตามข่าวสารการลงทุน ชอบวิเคราะห์ มีความรู้ในการเลือกซื้อหุ้น รวมถึงรู้จังหวะในการซื้อขาย ซึ่งหากยังไม่แน่ใจว่าจะลงทุนอะไรดี การติดตามข่าวและบทความวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญก็จะสามารถช่วยคุณตัดสินใจได้ในทางหนึ่ง
 
ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อที่ดิน ผ่อนคอนโดเพื่อให้เช่า ซึ่งการลงทุนเหล่านี้จะมีต้นทุนที่สูงกว่าการลงทุนในรูปแบบอื่น ๆ ต้องมีความรู้ในเรื่องทำเลและระดับราคา

วางแผนการลงทุน

 
ในกรณีที่ลงทุนในกองทุนรวม ไม่ว่าจะเป็น LTF, RMF กองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้น หรือแม้แต่การซื้อหุ้น เราอาจใช้วิธี Dollar Cost Averaging (DCA) เพื่อกระจายความเสี่ยงในด้านการผันผวนของราคา รวมถึงการสร้างวินัยด้านการลงทุน โดยกำหนดจำนวนเงินลงทุนที่แน่นอนในแต่ละเดือน เช่น ซื้อหน่วยลงทุนโดยตัดบัญชีทุกเดือน เดือนละ 1,000 บาท เพื่อซื้อกองทุน LTF, เดือนละ 1,000 บาท ลงทุนใน RMF, เดือนละ 1,000 บาท สำหรับการซื้อกองทุนรวมหุ้น เป็นต้น (วางแผนการเงิน ได้ที่นี่)
แผนลงทุนที่ดีควรสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตด้านการลงทุน ถึงแม้ว่าแผนการลงทุนหนึ่ง ๆ อาจจะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่สูงที่สุด แต่อาจจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของพนักงานประจำอย่างเรามากกว่า หากมีมืออาชีพคอยดูแล ติดตามผลประโยชน์แทนเรา ทั้งนี้ เมื่อตัดสินใจเลือกได้แล้วว่าจะลงทุนอะไรดี ก็อย่าลืมบอกตัวเองให้ตั้งใจทำงาน เพื่อความก้าวหน้าและความมั่นคงในอาชีพด้วยนะครับ
แจก E-Book รวมสูงเก็บเงิน พร้อมวิธีบริหารเงิน ฟรี
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา