เทคนิคบริหารทุกเรื่องเงินในครอบครัว อย่างไรให้ง่ายขี้น

อยากมีเวลาให้กับตัวเองและครอบครัวเพิ่มขึ้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่เรื่องยาก แค่เปลี่ยนมุมมองและวิธีการจัดการ เริ่มแรก เราควรเลือกจัดการในสิ่งที่สำคัญและเราสามารถทำได้ง่ายที่สุดก่อน อย่างเรื่องเงินในครอบครัว ที่หลายคนอาจจะคิดว่า “เรื่องเงินเนี่ยนะง่าย ยุ่งยากจะตาย” แต่เรามีเคล็ดลับจะมาบอก

ก่อนอื่น เราควรเลือกธนาคารสักแห่งเป็นธนาคารหลักที่สะดวกในการจัดการเรื่องเงินของเรา จากนั้นแบ่งบัญชีออกเป็น 3 ส่วนคือ 1 เงินที่ไว้ใช้จ่ายประจำเดือน 2 เงินออม และส่วนที่ 3 คือเงินเพื่อการลงทุน โดยใช้ Mobile Application ในการจัดการเรื่องต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน ซื้อของ จ่ายบิล ซื้อ-ขายกองทุน ข้อดีของการมีธนาคารหลัก คือ จะช่วยให้เราสามารถดูได้ว่าเรามีเงินทั้งหมดเท่าไร และใช้กับอะไรไปบ้างผ่าน Application โดยไม่ต้องมานั่งเสียเวลาทำบัญชีเอง

ต่อมา เราก็มาจัดการกับสารพัดบิลเจ้าปัญหา ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และอื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะจ่ายทีไรก็เกือบจะโดนตัดทุกที ปัญหานี้จัดการได้ง่ายนิดเดียว ด้วยการตั้ง auto debit ให้ตัดเงินจากบัญชีเราไปจ่ายบิลแบบอัตโนมัติเลยทุกเดือน ไม่ต้องเสียเวลามานั่งจำ แถมยังป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาตัดไฟ ตัดเน็ต เวลาเรายุ่งและลืมจ่ายด้วย

มาถึงตรงนี้หลายคนอาจจะเกิดคำถาม ถ้าครอบครัวต้องจ่ายค่ากู้บ้าน กู้รถ แต่บัญชีที่ใช้อยู่ดันไปอยู่กับอีกธนาคารละจะทำยังไงดี เรื่องนี้แก้ได้ไม่ยาก แค่เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่กู้บ้านอยู่ แล้วตั้ง Auto Debit ตัดจ่ายค่างวดจากบัญชีนั้นทุกเดือน โดยโอนเงินจากบัญชีธนาคารหลักเราไปยังบัญชีนั้น หรือตั้งโอนเงินอัตโนมัติทุกเดือนจากบัญชีหลักเพื่อกันลืม

หลังจากที่เราได้วิธีการจัดการกับค่าใช้จ่ายต่างๆในครอบครัวให้ง่ายขึ้นแล้ว เรามาจัดการบัญชีในส่วนที่เป็นเงินออมและส่วนที่เป็นเงินลงทุนกัน ซึ่งเราต้องมีการแบ่งไว้ให้ชัดเจนเพื่อจะได้มั่นใจว่ามีเงินพอใช้ไม่ขาดมือ บางคนอาจสงสัยว่าแล้วเงินออมกับเงินลงทุนต่างกันยังไง

เงินออม คือ เงินที่เก็บสะสมไว้ใช้ในอนาคต โดยมุ่งเน้นการรักษาเงินต้นเป็นหลัก ไม่ได้หวังดอกเบี้ยหรือผลตอบแทนที่สูงนัก และควรมีส่วนที่สามารถถอนหรือเอาออกมาใช้ได้ทันทีในยามฉุกเฉิน

เงินลงทุน คือ หลังจากมีเงินออมที่มากพอ เราก็ควรแบ่งเงินเก็บส่วนหนึ่งไปซื้อหรือลงทุนในสินทรัพย์ อาจจะเป็นบ้านหรือคอนโดเพื่อไว้ปล่อยเช่า ช่วยสร้างรายได้เพิ่มให้เรา หรือซื้อกองทุน ซื้อหุ้น เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นภายใต้ความเสี่ยงที่เรารับได้ ช่วยให้เงินของเรางอกเงยเป็นก้อนโตในอนาคต

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีการเตรียมเก็บเงินให้ลูก ซึ่งบัญชีของลูกนั้นควรเลือกหาบัญชีที่ให้ดอกเบี้ยสูงหน่อย เพื่อให้ได้รับผลตอบแทนที่คุ้มค่า หรือจะแบ่งบางส่วนไปลงทุนเพื่อได้ผลตอบแทนที่มากขึ้นไปอีก หรือจะแบ่งเงินไปซื้อประกันชีวิตไว้ด้วยก็เป็นอีกแนวทางที่ช่วยเตรียมเงินก้อนไว้ให้ลูกได้เช่นกัน

จากเคล็ดลับที่เล่ามา อยากแนะนำเพิ่มด้วยว่าที่ธนาคารกรุงศรี เรามีตัวช่วยที่ตอบโจทย์ทุกเรื่องที่เล่ามา อย่าง Mobile Application เราก็มี KMA krungsri app ที่ใช้ง่าย มีครบทุกฟังก์ชั่น ที่ช่วยให้ให้มนุษย์พ่อมนุษย์แม่แก้ปัญหาเหล่านี้

• หมดปัญหาเรื่องการจัดการค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็น โอนเงิน จ่ายบิล ตั้งโอน หรือ จ่ายบิลแบบอัตโนมัติ ก็ทำผ่านเมนู “สมัครหักบัญชีอัตโนมัติ” ใน KMA ได้เลย
• อยากได้บัญชีดอกเบี้ยสูงให้ตัวเองหรือให้ลูก ก็เปิดบัญชีออมทรัพย์มีแต่ได้ เปิดผ่าน KMA ได้เลย ดอกเบี้ยสูง 1.5% ต่อปีกันตั้งแต่บาทแรกเลย คิดดอกเบี้ยรายวัน โอนดอกเบี้ยเข้าบัญชีให้ทุกเดือน ถ้ามีเรื่องต้องใช้เงินเมื่อไหร่ก็ถอนได้
• หากจะลงทุน ก็สามารถเปิดบัญชีกองทุน และซื้อ-ขายผ่าน KMA ได้เลย สามารถเข้าไปดูพอร์ตได้ตลอดเวลา แล้วถ้าต้องการคำแนะนำในการจัดพอร์ตก็ทำได้ เพียงกดเลือกเมนู Smart advisor ใน KMA และกรอกข้อมูลบอกน้อง AI ไป จากนั้นระบบก็จะเสนอการจัดพอร์ตให้เราได้เลย
• หมดโควิดเมื่อไหร่ จะเตรียมตัวไปเที่ยวเมืองนอก ก็สามารถขอหนังสือรับรองเงินฝากสำหรับไปขอวีซ่า และซื้อประกันเดินทาง ผ่าน KMA ได้อีกด้วย