ไลฟ์สไตล์แบบไหนขัดขวางอิสรภาพทางการเงิน
เพื่อชีวิตสบาย
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ไลฟ์สไตล์แบบไหนขัดขวางอิสรภาพทางการเงิน

icon-access-time Posted On 23 มิถุนายน 2558
By Krungsri Guru
การมีชีวิตที่มีอิสรภาพทางการเงิน เป็นความปรารถนาของใครหลายๆ คน การมีชีวิตที่ไม่ต้องถูกกำหนดให้ใช้เวลาวันละ 8 ชั่วโมงทำงานให้กับบริษัท แต่สามารถเอาเวลาไปทำงานที่ตัวเองรัก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องรายได้ แต่แน่นอนว่า หนทางในการที่จะไปถึงอิสรภาพทางการเงินนั้นย่อมไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ ซ้ำร้าย Lifestyle ของใครหลายๆ คน กลับขัดขวางเส้นทางสู่อิสรภาพเสียอีก ก่อนที่จะสายเกินไป วันนี้เรามาดูกันครับว่า Lifestyle แบบใดที่เป็นอุปสรรคขัดขวางการก้าวสู่อิสรภาพทางการเงินของเรา
1
ว่างเป็นเที่ยว ตกเย็นต้องไปปาร์ตี้ เสาร์ อาทิตย์เข้าห้าง ดูหนัง เห็นโปรฯ ตั๋วที่ไหนราคาถูกเป็นต้องจอง หากการท่องเที่ยวของคุณไม่ได้นำมาซึ่งช่องทางในการก่อให้เกิดรายได้ แน่นอนว่า นอกจากเงินที่เสียไปแล้ว คุณกำลังทำลายทรัพยากรที่มีค่ามากที่สุด ซึ่งก็คือเวลาที่เหลืออยู่บนโลกของตัวคุณเอง จริงอยู่ที่ว่า คนเราต้องมีการพักผ่อนบ้าง แต่เราก็ควรมีขอบเขตของความพอดี โดยแบ่งเวลาหลังเลิกงาน หรือเสาร์ อาทิตย์ไปศึกษา หรือลองลงทุนสร้างรายได้จากสิ่งที่คุณรักดูบ้าง
2
ติดกินหรู การใช้เงินเดือนเกือบทั้งหมดไปตามชิมอาหารหรูตามร้านอาหาร หรือตามโรงแรม เพียงแค่เพื่อจะได้ถ่ายรูปสวยๆ Caption เก๋ๆ แล้วอวดเพื่อนบน Social ลงจดบันทึกดูไหมครับว่า เดือนๆ หนึ่งคุณใช้เงินไปกับกิจกรรมประเภทนี้ไปเท่าไหร่ แล้วมันใช่สิ่งที่คุณควรทำหรือไม่ อย่าลืมครับว่า การ Post รูปลง Social ไม่ได้ช่วยให้คุณมีเงินมากขึ้น ยกเว้นแต่ว่า คุณจะทำ Review ร้านอาหารเพื่อหารายได้
3
ติดอยู่หรู คอนโดต้องมี รถเก๋งต้องมา หากการได้มาซึ่งชีวิตอันแสนสุขสบายเหล่านี้ คือการกู้ยืมแล้วล่ะก็ คิดดูให้ดีๆ นะครับว่า ดอกเบี้ยจากเงินผ่อนที่จะต้องเสียไปมันคุ้มกับความสุขที่ได้รับไหม ของที่ซื้อมาไม่นานก็ต้องเสีย ต้องซ่อม ต้องดูแล ซ้ำร้ายคุณอาจจะเบื่อก่อนจะผ่อนหมดเสียอีก ดังนั้น ก่อนจะตัดสินใจใช้เงินซื้ออะไร คิดให้รอบคอบถึงความจำเป็นนะครับ
4
ชีวิตติดเทรนด์ อุปกรณ์ออกกำลังกายต้องจัดเต็ม Gadget ต้องล้ำ กล้องต้องระดับโปร มือถือต้องรุ่นใหม่ตลอด แน่นอนครับว่าของพวกนี้ มันดูดี แต่ผมฝากให้ดูความพร้อมทางการเงินด้วยนะครับ ด้วยความเป็นห่วง
5
ติดใช้แบรนด์เนม ข้อนี้คงโดนใจสาวๆ หลายๆ คนเลยครับ ลองคิดดูนะครับว่า ราคากระเป๋าแบรนด์เนมหนึ่งใบของคุณผู้หญิง มีค่าเท่ากับอาหารกี่มื้อ หรือเทียบเท่ากับหุ้น Blue-Chip กี่ตัว บางท่านอาจจะบอกว่า กระเป๋าแบรนด์เนมนั้น ขายต่อได้ ราคาไม่ตก แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะมีสักกี่คนที่อยู่ในวงการซื้อขายกระเป๋าเพื่อเอากำไร นอกจากราคากระเป๋า 5 หลักแล้ว ยังจะต้องมีอุปกรณ์เสริมไว้ดูแลกระเป๋าอีก ทั้งสเปรย์กันน้ำ ทั้งชุดทำความสะอาด แม้กระทั่งพากระเป๋าไปทำสปา หากคุณผู้หญิงเปลี่ยนใจจากการเสพติดกระเป๋ามาเป็นเสพติดการลงทุนแทน นอกจากจะไม่มีค่าใช้จ่ายจุกจิกแล้ว ยังมีโอกาสทำให้เงินต้นงอกเงยอีกนะครับ
6
ป๋ามาเอง ข้อนี้นับเป็นภาษีสังคมสำหรับมนุษย์เงินเดือนเลยครับ ผมเห็นด้วยครับว่าการเลี้ยงน้องในทีม การสังสรรค์ในทีม การแสดงความขอบคุณต่อทีมเป็นเรื่องสำคัญสำหรับคนที่ทำงานร่วมกัน แต่ทุกอย่างย่อมมีลิมิตที่เหมาะสมนะครับ ลองเปลี่ยนจากการเลี้ยงสังสรรค์ทุกเย็นวันศุกร์ มาเป็นรายเดือน หรือหลังโปรเจคจบดีไหมครับ จะได้มีวาระการฉลองไม่พร่ำเพรื่อ
7


 
รักความเสี่ยง (ด้านลบ) บนการพนัน แทงหวย แทงบอล ถ้าคุณไม่ได้มีองค์ประจำตัว หรือแหล่งเลขเด็ดที่จะทำให้คุณร่ำรวยได้จากช่องทางนี้ เอาเงินและเวลาของคุณไปสร้างธุรกิจด้วยมือของคุณจะน่าภูมิใจกว่านะครับ
ไม่ผิดหรอกครับ ถ้าคุณจะมี lifestyle ข้อใดข้อหนึ่งข้างต้น หากคุณสามารถหาเงินได้มากกว่าเงินที่คุณใช้ในแต่ละเดือน และมากจนเพียงพอสำหรับเกษียณตัวเอง แต่หากคุณยังเป็นคนที่ไม่มีเงินเก็บ ด้วย Lifestyle ที่กล่าวมา จะทำให้คุณติดกับดักวงจรชีวิตมนุษย์เงินเดือน ในเมื่อมีรายจ่ายต่อเดือนมาก คุณก็จะพยายามรักษาตำแหน่งงานเพื่อให้มีเงินมาจ่ายค่าความสุขเฉพาะหน้า และคุณยังคงใช้เวลาไปกับ Lifestyle เดิมๆ แทนที่จะที่จะใช้เวลาไปกับหาช่องทางเพิ่มรายได้ สุดท้ายชีวิตในวัยทำงานแบบหนูถีบจักรก็จะหมดลง พร้อมกับสมุดเงินฝากที่มีเงินเก็บอันน้อยนิด คุณอาจจะมีช่วงชีวิตที่หรูหราไว้ให้จดจำเมื่อมองย้อนกลับไปในอดีต แต่คุณเคยคิดถึงอนาคตบ้างไหมว่า ชีวิตของคุณกับคำว่า “อิสรภาพทางการเงิน” มาบรรจบกันเมื่อไหร่
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา