ชวนเคลียร์หนี้หมักหมม ด้วยการลด ละ เลิก
รอบรู้เรื่องยืมเงิน
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

ชวนเคลียร์หนี้หมักหมม ด้วยการลด ละ เลิก

icon-access-time Posted On 01 มิถุนายน 2560
By Maibat
สถิติคนไทยเป็นหนี้ไม่แพ้ชาติใดในโลก สาเหตุหลักเกิดจากการรับเอาแนวคิดบริโภคนิยม ที่กระตุ้นให้มีพฤติกรรมอยากได้อยากมีเหมือนคนอื่น จนติดเป็นนิสัยใช้เงินเกินตัว เงินที่หามาเหนื่อยยาก แต่กลับใช้ไปอย่างง่ายดายจนเกิดปัญหาเงินไม่พอใช้ขึ้นมา เริ่มเข้าสู่วงจรสร้างหนี้นำรายได้ในอนาคตมาขอสินเชื่อผ่อนจ่ายรายเดือนเอา นานวันเข้าติดเป็นนิสัยอยากได้ ซื้อเลย รอเก็บเงินไม่เป็น สุดท้ายก็จะมีหนี้อื่น ๆ ตามมาจนเกิดเป็นหนี้หมักหมมก้อนโต หนี้เดิมจ่ายยังไม่หมด หนี้ใหม่ก็เติมเข้ามาเรื่อย ๆ แล้วอย่างนี้คงยากที่จะสร้างฐานะการเงินให้มั่นคง
สาเหตุอีกประการเกิดจากขาดการวางแผนการเงินที่ดีจนต้องมีหนี้ก้อนโตโดยไม่ได้ตั้งใจ บางคนสงสัยว่า มีแบบนี้ด้วยหรือ เรามาดูกันเลยครับว่า มีเคสอะไรบ้าง ตัวอย่างเช่น
เคสแรก เจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงถึงขั้นอาจเสียชีวิต ค่ารักษาที่โรงพยาบาลหลักล้าน แต่ไม่ได้ทำประกันคุ้มครองโรคร้ายแรงเอาไว้ต้องออกเองทั้งหมด
เคสสอง ซื้อบ้านเกินฐานะ รายได้สูงแต่เงินเก็บมีน้อย ก่อนกู้เข้าใจผิดคิดว่า รวยจ่ายไหว พอเอาเข้าจริงหาเงินมาจ่ายค่างวดยังลำบาก
เคสสาม มีลูกภาระเยอะ กัดฟันให้เข้าโรงเรียนเอกชนหลักสูตรอินเตอร์ ต้องไปหยิบยืมเงินคนโน้นคนนี้วุ่นวายไปหมด เป็นต้น หากวางแผนการเงินดีจะช่วยแก้ไขปัญหาหรือผ่อนหนักเป็นเบาได้
ผมเล่าเรื่องไม่ดีของการเป็นหนี้มาซะเยอะจนอาจทำให้บางคนขยาดการเป็นหนี้ ช้าก่อนครับ เรามารู้จักว่า จริง ๆ แล้วหนี้ก็มีหลายประเภทนะ ผมขอแบ่งออกเป็น 3 ประเภทแล้วกัน คือ
  • หนี้ลงทุน แปลว่า ทำแล้วต้องมีรายได้กลับมา เช่น คอนโดปล่อยเช่า กู้เงินขยายกิจการ
  • หนี้จำเป็น แปลว่า ทำด้วยความจำเป็นในชีวิต เช่น กู้เงินมาเรียนหนังสือ กู้เงินซื้อบ้านอยู่อาศัย
  • หนี้ฟุ่มเฟือย แปลว่า ทำเกินความจำเป็นในชีวิต เช่น กู้ไปเที่ยวต่างประเทศ กู้ซื้อของแบรนด์เนม โดยหนี้ทุกประเภทต้องระวัง ก่อนจรดปากกาเซ็นต้องมั่นใจว่า จ่ายไหว ไม่งั้นอาจกลายเป็นหนี้หมักหมมก้อนโตขึ้นมาจนจ่ายไม่ไหว ทำให้เครียดเรื่องเคลียร์หนี้และเสียประวัติการชำระเงินที่ดีในเครดิตบูโร
ตอนเป็นเด็กผมถูกคุณพ่อปลูกฝังว่า การเป็นหนี้มีแต่เรื่องไม่ดี อยากได้อะไรต้องเก็บเงินให้ครบ แล้วค่อยซื้อ ซึ่งคุณพ่อก็ยึดถือปฏิบัติอย่างนั้น ตอนผมเรียนมหาวิทยาลัยในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 2540 ธุรกิจต่าง ๆ ของคุณพ่อโดยเฉพาะอสังหาริมทรัพย์ได้รับผลกระทบไม่มาก ครอบครัวเรายังมีเงินเหลือไปซื้ออสังหาริมทรัพย์เข้ามาอีก ยิ่งตอกย้ำแนวคิดนี้ในใจผม สิ่งที่คุณพ่อปลูกฝังอีกอย่าง คือ การยืนบนลำแข้งตัวเอง ไม่หวังพึ่งเงินจากพ่อแม่ ผมแต่งงานตอนอายุย่าง 30 ปี เป็นช่วงชีวิตที่ใช้เงินมากจนต้องสร้างหนี้ครั้งแรกในชีวิตเป็นหนี้กู้ซื้อบ้านไว้อยู่อาศัย เพราะเก็บเงินไม่ทัน ราคาขยับเพิ่มทุกปีไวมาก ซึ่งเป็นใบเบิกทางให้ผมรู้จักการลงทุนอสังหาริมทรัพย์โดยใช้เงินคนอื่น (ธนาคาร) ที่ผ่านมาได้รับผลตอบแทนดีทีเดียว ทำให้มุมมองผมเปลี่ยนไป หนี้มีทั้งดีและไม่ดีต้องคิดให้ดีก่อนจะเป็นหนี้ และอย่าปล่อยให้เกิดหนี้หมักหมมจนจ่ายไม่ไหว
ในความเป็นจริงคนเรามีโอกาสผิดพลั้งกันได้ ผมขอแนะนำวิธีปลดล็อกหนี้หมักหมมด้วยมาตรการ ลด-ละ-เลิก กันดีกว่าครับ ดังนี้

มาตรการ "ลด"

  • ลดระดับการใช้จ่าย อะไรประหยัดได้ก็ลงมือทำไม่ต้องคิดเยอะ เช่น ลดซื้อกาแฟ ขนมหวาน ลดการทานข้าวนอกบ้าน ลดการท่องเที่ยว
  • ลดหนี้ดอกเบี้ยแพงก่อน ธนาคารคิดดอกเบี้ยทุกวัน ควรนำเงินไปชำระเงินกู้ที่ถูกคิดดอกเบี้ยแพงก่อน ยกเว้นการผ่อนสินค้าที่ถูกคำนวณดอกเบี้ยและค่างวดแน่นอนไปแล้ว
  • ลดเวลาพักผ่อนเร่งหาเงินใช้หนี้ ถ้าหนี้เยอะประหยัดอย่างเดียวไม่ทัน ควรหารายได้เสริมมาปลดหนี้เพื่อให้ความสุขคืนมาโดยพลัน

มาตรการ "ละ"

  • ละเว้นการซื้อของใหม่ที่ไม่จำเป็น อะไรซ่อมแซมได้ก็ใช้ไปก่อน แต่ต้องดูด้วยว่าค่าซ่อมแพงไหม คุ้มหรือเปล่าเมื่อเทียบกับซื้อชิ้นใหม่
  • ละทิ้งบางสิ่งให้หนี้เบาลง ของตั้งโชว์ในบ้านอันไหนที่ซื้อมาแล้วไม่ได้ใช้ ถ้าขายได้ก็ควรนำไปขายหาเงินมาปลดหนี้
  • ละเลยสิ่งยั่วยุให้กลับเป็นหนี้ซ้ำซาก โปรโมชั่นลดถล่มราคา ซื้อก่อนผ่อนทีหลัง ถ้าใจไม่แข็งพอและเงินยังไม่พร้อมก็ควรหยุดเสพข่าวเหล่านี้

มาตรการ "เลิก"

  • เลิกใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย ของหรูหราเกินฐานะ ของที่เกินความจำเป็น ของที่ซื้อมาโดยไม่ได้ดูราคาเปรียบเทียบ ควรหยุดซื้อได้แล้ว
  • เลิกหมุนหนี้กดบัตรนี้ไปจ่ายบัตรโน้น เป็นวิธีการเร่งหนี้ให้โตขึ้นอย่างรวดเร็ว ทุกครั้งที่กดเงินจากบัตรเครดิตจะถูกคิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมที่สูง
  • เลิกหลบปัญหาหาทางเคลียร์หนี้ให้หมด ควรทำบันทึกการเงินให้เข้าใจฐานะการเงินที่แท้จริงว่า ต้องแก้ไขตรงจุดไหนบ้างเพื่อให้ฐานะการเงินมั่นคง
หากคุณกำลังทุกข์ใจจากหนี้ อย่าลืมนำมาตรการ “ลด-ละ-เลิก” ไปลองใช้ดูนะครับ
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา