กระทู้อวดเงินเดือนตกกระป๋องไปแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีกระทู้อวดเงินที่เจ๋งกว่าว่าจะเอาไปลงทุนอะไรดีมาแทนแล้ว ทำไมคนที่ตอบในกระทู้เหล่านี้ถึงบอกได้ แนะนำได้ตลอดกันนะ ถึงแม้บางคนจะบอกว่า มีเงินเก็บไม่เยอะ แต่อยากนำเงินก้อนเท่านี้ ๆ ไปลงทุน มีอะไรน่าสนใจบ้าง ซึ่งถ้ามองดี ๆ แล้ว เราก็พอจะมีโอกาสลงทุนได้นะ ด้วยวงเงินเท่านั้น แต่พอมามองเงินในบัญชีเงินเดือน ก็มีเยอะใช้ได้เหมือนกันนะ แต่ทำไมไม่มีแววจะเอาไปลงทุนได้เลย เพราะสิ้นเดือนทีไรก็ต้องเอาเงินที่ว่าจะเก็บนี้ไปใช้ตลอดเลย ดูดีดูมีตัง แต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้มีความมั่นคงทางการเงินเลย เพราะ 5 นิสัยไม่ดีเหล่านี้
กระทู้อวดเงินเดือนตกกระป๋องไปแล้ว เพราะเดี๋ยวนี้มีกระทู้อวดเงินที่เจ๋งกว่าว่าจะเอาไปลงทุนอะไรดีมาแทนแล้ว ทำไมคนที่ตอบในกระทู้เหล่านี้ถึงบอกได้ แนะนำได้ตลอดกันนะ ถึงแม้บางคนจะบอกว่า มีเงินเก็บไม่เยอะ แต่อยากนำเงินก้อนเท่านี้ ๆ ไปลงทุน มีอะไรน่าสนใจบ้าง ซึ่งถ้ามองดี ๆ แล้ว เราก็พอจะมีโอกาสลงทุนได้นะ ด้วยวงเงินเท่านั้น แต่พอมามองเงินในบัญชีเงินเดือน ก็มีเยอะใช้ได้เหมือนกันนะ แต่ทำไมไม่มีแววจะเอาไปลงทุนได้เลย เพราะสิ้นเดือนทีไรก็ต้องเอาเงินที่ว่าจะเก็บนี้ไปใช้ตลอดเลย ดูดีดูมีตัง แต่ใครจะรู้ว่าจริง ๆ แล้วไม่ได้มีความมั่นคงทางการเงินเลย เพราะ 5 นิสัยไม่ดีเหล่านี้
1. คลั่งไคล้การลุ้นโชค – หวังน้ำบ่อหน้า
นิสัยแรกที่มักจะแทรกซึมอยู่ในสังคมไทยอย่างทั่วถึงกับนิสัยที่ชอบการลุ้นโชค ไม่ว่าจะเล็กใหญ่ จะเดือนละ 2 ครั้ง หรือจะลุ้นโชคจริงจังแบบผิดกฎหมาย คนที่คิดจะลงทุนนิดเดียวแล้วหวังผลกำไรเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งไม่รู้ตัวเอาเสียเลยว่า ที่ลงทุนนิดหน่อยไปทุก ๆ เดือนนั้น เมื่อนำมาบวก ๆ กันในแต่ละปี สามารถนำไปเที่ยวยุโรปหรือโปะเงินผ่อนบ้านได้เลยทีเดียว แถมยังหวังน้ำบ่อหน้า คิดว่าอย่างไรก็ต้องมีเงินเข้ามาแน่นอน ไม่ว่าจะจากโชคช่วยหรือจากเงินเดือนประจำ บีบให้ตัวเอง
ใช้เงินแบบเดือนชนเดือน (หรืออาจจะหมดก่อนด้วยซ้ำ)
2. ขี้เกียจ – หนักไม่เอาเบาไม่สู้
ทำงานไปวัน ๆ แบบเช้าชามเย็นชาม เข้า-ออกงานตรงเวลา ทำตามหน้าที่หรือน้อยกว่าหน้าที่ทุกวัน ไม่มีการพัฒนาตัวเอง หรือไม่มองถึงความก้าวหน้า ไม่ช่วยเหลือผู้อื่น เมื่อเห็นว่าจะมีงานยาก ๆ หรืองานแปลกใหม่มาก็ปฏิเสธลูกเดียว บอกทำไม่เป็นบ้าง ไม่สะดวกบ้าง งานที่ทำก็คอยโวยวายว่าเยอะแยะมากมาย แต่ความจริง คือ ขี้เกียจจนไม่อยากจะทำอะไร นี่ไม่วายรวมไปถึงชีวิตหลังเลิกงานหรือวันหยุดที่ไม่คิดจะหารายได้เสริมหรือทำเรื่องสร้างสรรค์ใด ๆ รวมทั้งไม่ได้ลงทุนอะไรให้เงินงอกเงยอีก พูดง่าย ๆ ว่า เป็นคนที่ใช้เงินแบบมีรายได้ทางเดียว จึงไม่สามารถเพิ่มพูนเงินออมให้เร็วขึ้นได้
3. ชอบทำเรื่องไร้สาระ – ไม่มีเป้าหมายในชีวิต
นอกจากความขี้เกียจแล้ว ถ้ายังมีนิสัยชอบทำเรื่องไร้สาระ ไม่คิดคำนึงว่า ในอนาคตจะเอาอย่างไรกับชีวิต ไม่คิดวางเป้าหมายอะไร พอไม่มีเป้าหมายก็ไม่มีแรงบันดาลใจอะไร ก็ใช้ชีวิตใช้เงินแบบไม่คำนึงถึงอนาคต เมื่ออยากได้อยากมีอะไรก็ซื้อมาทันที ไม่รู้ตัวว่า อยากมีเงินเพื่ออะไรกันแน่ ในแต่ละเดือนไม่รู้เลยว่า เงินหายไปไหน ใช้อะไรไปบ้าง โดยสาเหตุหลักก็มาจากการไม่ทำบัญชีรายรับรายจ่าย ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติเลยทีเดียว
4. ชอบอวดรวย – เสพติดชีวิตหรู
สมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ต้องมีก่อนใคร คอลเลกชันใหม่ของนาฬิกาหรือรองเท้าชื่อดังต้องได้เป็นเจ้าของให้ได้ แต่งตัวเรียบ ๆ มินิมอล แต่ทุกชิ้นต้องแบรนด์เนม สำหรับคนที่มีนิสัยชอบใช้ของแพงแบบไม่จำเป็น หลายคนก็มีนิสัยชอบอวดไปด้วย เพราะถ้ามีของแพง ๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์ของร่างกาย ก็ทำให้คนอื่นมองว่า “คนนี้รวย” ด้วยความที่แต่งตัวแพงมาก แต่ใครจะรู้ล่ะว่า คนที่ใช้ของแพง ๆ แบบนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้บัตรเครดิตแบบโงหัวไม่ขึ้น เพราะสินค้ามาใหม่ ถ้าจะซื้อได้ต้องสั่งจากเมืองนอกบ้างล่ะ ต้องสั่งซื้อก่อนใครบ้างล่ะ ซึ่งการใช้บัตรเครดิตก็สะดวกกว่าเป็นไหน ๆ เป็นผู้เสพติดความหรูแบบนี้ จะเงินเดือนเยอะแค่ไหน หรือจะพยายามเก็บเงินสักเท่าไหร่ ถ้าใช้ชีวิตแพง ๆ ก็คงไม่มีเหลือให้รวยจริง ๆ ได้
5. มีหนี้ไม่ยอมใช้ – ก่อหนี้ใหม่ไม่รู้จบ
ต่อเนื่องจากข้อก่อน ๆ เมื่อมีนิสัยชอบใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายแบบไม่จำเป็น ไม่คิดหน้าคิดหลัง ไม่วางแผนการใช้เงิน ไม่ทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย ไม่ตั้งเป้าหมายในการออม ชอบใช้ของแพง กินอยู่แพง ก็ย่อมมีปัญหาการใช้เงินในอนาคตบ่อย ๆ เช่น บัตรเครดิต หรือการกดเงินสดจากบัตรเครดิตตลอด ก่อหนี้ใหม่ไม่รู้จบ แต่ละเดือนต้องหาเงินมาใช้หนี้เหล่านี้อยู่ตลอด แล้วเมื่อก่อหนี้ใหม่เรื่อย ๆ ก็มักจะมีชีวิตเดือนชนเดือน จนอาจกระทบเงินออมในอนาคตอย่างแน่นอน
ถ้า “อยากเปลี่ยนแปลงตัวเอง อยากออมเงินให้ติดหนึบอยู่กับบัญชีเงินฝาก แล้วก็อยากนำ
เงินออมไปลงทุนในกองทุนรวมสักหน่อย” ถ้าความอยากข้างต้นนั้น เป็นสิ่งที่ลึก ๆ ในใจของคุณเรียกร้องตลอดเวลา แต่ผ่านไปเดือนแล้วเดือนเล่า ก็ไม่ได้เริ่มสักที มันไม่ได้มีปัญหามาจากปัจจัยอะไรหรอก ถ้าคุณยังมี “5 นิสัยไม่ค่อยดี” ที่คอยตอดเงินออมออกไปตลอด ก็ได้เวลาเปลี่ยนแปลงตัวเองได้แล้วนั่นเอง