เปิดประสบการณ์พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น ที่เด็กๆต้องร้องว้าว
เพื่อชีวิตสบาย
icon-Facebook icon-Twitter icon-line

เปิดประสบการณ์พาลูกเที่ยวญี่ปุ่น ที่เด็กๆต้องร้องว้าว

icon-access-time Posted On 08 กุมภาพันธ์ 2567
By Krungsri The COACH
เคยมั้ย? เวลาพาลูกไปเที่ยวทีไร มักจะเจอคำถามว่า “พาลูกไปตอนยังเล็กแบบนี้ ลูกก็จำอะไรไม่ได้หรอก จะพาไปทำไม” แต่คุณพ่อคุณแม่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วการพาลูกเที่ยวช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพัฒนาการทางด้านสมอง เพราะลูกจะได้เห็นสิ่งแวดล้อมใหม่ ๆ ที่ต่างจากเดิม

หากคุณอยากพาลูกไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ๆ นอกเหนือจากการเที่ยวในประเทศ ปัจจุบันไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปเพราะเดี๋ยวนี้มีหลากหลายประเทศที่มีความเป็น Kids Friendly ไม่ว่าจะเป็นการเดินทาง อาหารการกิน ความปลอดภัย สิ่งอำนวยความสะดวก หากพูดถึงปัจจัยเหล่านี้ แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นประเทศญี่ปุ่น ที่มีสถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมมากมายที่เหมาะกับครอบครัว

ไปเที่ยวญี่ปุ่นพาลูกไปทำอะไรดี?

ประเทศญี่ปุ่นมีสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะกับเด็กทุกวัย จะไปเมืองไหนก็มีสถานที่และกิจกรรมที่เด็ก ๆ ทำได้ หลายคนอาจจะคิดไม่ออกว่าจะเริ่มต้นพาไปที่ไหนดี หรืออยากพาไปที่ใหม่ ๆ บ้าง ลองมาดูไอเดียที่เที่ยวจากบทความนี้กัน

4 หมวดที่เที่ยวในญี่ปุ่น พากันแฮปปี้ทั้งครอบครัว

1. พิพิธภัณฑ์

  • พิพิธภัณฑ์ตำรวจ (Ginza , Tokyo)
    เอาใจเด็กผู้ชายกันบ้าง กับพิพิธภัณฑ์ที่รวมของเกี่ยวกับตำรวจญี่ปุ่น มีการจัดแสดงชุดเครื่องแบบในยุคต่างๆ รถยนต์ และรถจักรยานยนต์ และเฮลิคอปเตอร์ของตำรวจ รวมไปถึงอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ใช้ในการติดตามและจับกุมผู้ร้าย เด็กๆจะได้สนุกกับการสวมบทบาทเป็นตำรวจ และร่วมสนุกกับกิจกรรมต่าง ๆ ขอแนะนำให้โหลดแอปพลิเคชันแปลภาษาติดไปด้วย เพราะที่นี่จะมีแต่ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
    ค่าเข้าชม: ฟรี
    เวลาเปิด-ปิด: 10:00-18:00 (ปิดทุกวันจันทร์ หากวันจันทร์เป็นวันหยุดราชการ จะปิดในวันอังคาร)

  • Tokyo Toy Museum (Yotsuya, Shinjuku, Tokyo)
    นอกจากคอนเซปต์เก๋ ๆ ที่แปลงโฉมจากโรงเรียนเก่าให้เป็นพิพิธภัณฑ์ของเล่นให้เด็กๆแล้ว และถ้าของเล่นไม้คือของเล่นที่ลูกคุณชื่นชอบ คุณจะชอบที่นี่ เพราะจุดเด่นของที่นี่คือจำลองความเป็นธรรมชาติ ของเล่นของที่นี่จะแยกตามวัย และส่วนใหญ่ทำมาจากไม้ ช่วยเสริมพัฒนาการ และฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็ก มัดใหญ่ ของเด็กได้ดี
    ค่าเข้าชม: 500 – 1,200 เยน (เด็กทารก – 5 เดือนเข้าฟรี)
    เวลาเปิด-ปิด: 10:00-16:00 น. (ปิดทุกวันพฤหัสบดี)

  • พิพิธภัณฑ์การบินไอจิ (Nagoya Airport , Aichi)
    น้อง ๆ หนู ๆ ที่ฝันอยากเป็นนักบิน พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ได้รวบรวมความสนุกไว้มากมาย มีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ลองขับเครื่องบินจำลอง ห้องทดลองวิทยาศาสตร์ ห้องบรรยายและปฐมนิเทศที่ให้ความรู้ในการเป็นวิศวกรด้านการบิน รวมถึงมีการจัดแสดงเครื่องบิน เครื่องบินเจ็ท และเฮลิคอปเตอร์ ไฮไลต์ของที่นี่อยู่ที่ "มิตซูบิชิ ซีโร่" หนึ่งในเครื่องบินขับไล่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2
    ค่าเข้าชม: 500 – 1,000 เยน (เด็กอายุต่ำกว่าชั้นประถม เข้าฟรี)
    เวลาเปิด-ปิด: 9:30-17:00 น. (ปิดทุกวันอังคาร หากวันอังคารเป็นวันหยุดราชการ จะปิดในวันพุธ)
 
พิพิธภัณฑ์การบินไอจิ
เครดิตรูป www.aichi-now.jp

2. Zoo & Aquarium

  • NIFREL (Expo city, Osaka)
    สำหรับใครที่ชื่นชอบการไปสวนสัตว์แนวใหม่ ขอแนะนำที่นี่เลย เพราะที่ NIFREL นี้ได้นำเทคโนโลยี Interactive มาใช้โดยนำเอาแสง สี เสียงมาประกอบการจัดแสดง และยังสามารถสัมผัสเหล่าสัตว์ได้แบบระยะประชิด ซึ่งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนี้แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 7 โซนดังนี้
    • Shapes
    • Colors
    • Wonder
    • Moments
    • Waterside
    • Behavior
    • Biodiversity

    ค่าเข้าชม: 600 - 1,900 เยน
    เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 - 20:00 น. (เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง)

  • Asahiyama Zoo (Asahikawa, Hokkaido)
    นอกเหนือจากเล่นสกี รู้มั๊ยว่าที่ฮอกไกโดก็มีสวนสัตว์ให้คุณพาลูก ๆ ไปเที่ยวเช่นกัน จุดเด่นของที่นี่คือ เด็กจะสามารถชื่นชมสัตว์นานาชนิดได้ในทุกมุมมอง เพราะสวนสัตว์แห่งนี้เน้นการออกแบบที่อยู่ของสัตว์แต่ละชนิด ให้ใกล้เคียงกับสภาพแวดล้อมเดิมของสัตว์ชนิดนั้น ๆ เพื่อให้เด็ก ๆ ได้สังเกตการณ์ใช้ชีวิตของสัตว์ชนิดนั้นตามธรรมชาติจริง ๆ
    ค่าเข้าชม: 1,000 เยน
    เวลาเปิด-ปิด:
    ปลายเดือนเมษายน-กลางเดือนตุลาคม 9:30-17:15 น. (เข้าก่อน 16:00)
    กลางเดือนตุลาคม-ต้นเดือนพฤศจิกายน 9:30-16:30 น. (เข้าก่อน 16:00)
    กลางเดือนพฤศจิกายน-ต้นเดือนเมษายน 10:30-15:30 น. (เข้าก่อน 15:00)
    (เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง)
     
  • Kamogawa Sea World (Higashicho, Kamogawa-shi, Chiba)
    ถ้าใครอยากไปดูปลาวาฬ ปลาโลมาแบบใกล้ชิด และไม่ไกลจากโตเกียวนัก ขอแนะนำ Kamogawa Sea World เพราะที่นี่เด็กๆจะได้เพลิดเพลินกับกิจกรรมต่าง ๆ มากมายรวมถึง สระและบ่อเพาะพันธุ์ปลา และพลาดไม่ได้กับไฮไลต์เด็ดกับโชว์จากปลาวาฬเพชฌฆาต และปลาโลมา นอกจากนี้ยังมีโรงแรม "Kamogawa Sea World" ที่อยู่ติดกับที่นี่ สำหรับใครที่เลือกพักที่โรงแรมนี้สามารถเข้าชม Sea World ได้ฟรีอีกด้วย
    ค่าเข้าชม: 1,300 – 3,300 เยน
    เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 9:00 – 16:00 น. (เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง)
 
Kamogawa Sea World
เครดิตรูป www.japantravel.com
 

3. Theme Park

  • Tokyo Disney Land (Tokyo Disneyland Station, Tokyo)
    ไปเที่ยวญี่ปุ่นทั้งที ไม่ไปที่นี่ได้ไง เพราะที่นี่เป็นหนึ่งใน Bucket List ที่คุณพ่อคุณแม่อยากจะพาลูกมา ไม่ว่าจะเป็นเด็กเล็กเด็กโตก็ฟินหมด ปัจจุบันที่นี่แบ่งเป็น 2 สวนสนุก คือ Tokyo Disney Land และ Tokyo Disney Sea ถ้าใครพาลูกเล็กไปเที่ยวแนะนำให้เริ่มที่ Tokyo Disney Land เพราะมีเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กเล็กมากกว่า ในขณะที่ Tokyo Disney Sea จะเป็นเครื่องเล่นที่เหมาะกับเด็กโต และที่พลาดไม่ได้ของทั้งสองสวนสนุกคือ ขบวนพาเหรดที่อลังการ และการจุดพลุที่น่าตื่นตาตื่นใจ รับรองว่าลูก ๆ ของท่านจะต้องหลงใหลในสวนสนุกแห่งนี้แน่นอน
    ค่าเข้าชม: เริ่มต้น 7,900 เยน (เด็กต่ำกว่า 4 ปีเข้าฟรี)
    เวลาเปิด-ปิด: เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง

  • Thomas Land Fuji-Q (Fuji-Q Highland, Yamanashi)
    หลาย ๆ คนที่ไปเที่ยวชมภูเขาไฟฟูจิอาจจะยังไม่รู้ว่า บริเวณนั้นมีสวนสนุกที่สามารถพาลูกไปเที่ยวได้ นั่นก็คือสวนสนุก Fuji-Q ฟังแบบนี้อาจจะคิดว่ามีแต่เครื่องเล่นที่หวาดเสียวรึเปล่า แต่จริง ๆ แล้วภายในสวนสนุกแห่งนี้มี โซน Thomas Land ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการ์ตูนที่เด็กๆ ชื่นชอบ และไม่ต้องไปไกลถึงประเทศอังกฤษ เหมาะกับการพาเด็กเล็กไปเที่ยว โดยเด็ก ๆ จะได้สัมผัสและเพลิดเพลินไปกับขบวนรถไฟคุณโทมัสอย่างใกล้ชิด
    ค่าเข้าชม: เข้าชมฟรี คิดค่าเครื่องเล่นแยกแต่ละเครื่อง 400-500 เยน
    เวลาเปิด-ปิด: 10:00 – 16:00 น. (เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง)

  • Anpanman Museum (Sendai, Yokohama, Nagoya, Kobe, Fukuoka)
    สำหรับใครที่พาลูกเล็กอายุต่ำกว่า 1 ขวบไปเที่ยว และยังคิดไม่ออกว่าจะพาไปไหนดี ที่สวนสนุกแห่งนี้ตอบโจทย์แน่นอน เพราะที่นี่แบ่งโซนเล่นเป็นหลายโซน ซึ่งมีโซนเด็กเล็กที่เล่นได้ตั้งแต่เด็กที่เริ่มคลาน สามารถให้เด็ก ๆ ได้คลานเข้าออก ลอดอุโมงค์ หรือถ้าเป็นเด็กโตขึ้นมาหน่อยก็มีเครื่องเล่นหลายแบบให้เลือก และที่พลาดไม่ได้คือการแสดงโชว์ของอังปังแมนและผองเพื่อน
    ค่าเข้าชม: 1,800 - 2,600 เยน (เด็กต่ำกว่า 1 ปีเข้าฟรี) ราคาขึ้นอยู่กับสถานที่ที่ไป กรุณาเช็ค website
    เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 10:00 – 17:00 น. (เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง)
 
Anpanman Museum
เครดิตรูป www.timeout.com
 

4. Activity

  • Kidzania (Fukuoka, Koshien, Tokyo)
    หากใครกำลังมองหากิจกรรมให้ลูกเพื่อเปิดประสบการณ์ในการเรียนรู้แต่ละอาชีพ Kidzania คือคำตอบ เพราะที่นี่ให้เด็ก ๆ ได้ทดลองสวมบทบาทอาชีพต่าง ๆ กว่า 100 สายงาน ซึ่งเด็ก ๆ จะได้สนุกไปกับงานจำลองที่ได้ทำ ยิ่งไปกว่านั้นทุกงานที่เด็ก ๆ ได้เลือกทำยังให้ค่าตอบแทนเป็นเงินสกุล Kidzo ซึ่งสามารถนำไปใช้ซื้ออาหาร ขนม ของที่จำหน่ายในคิดส์ซาเนียได้อีกด้วย
    ค่าเข้าชม: 1,300 – 7,300 เยน (เด็กต่ำกว่า 3 ปีเข้าฟรี)
    เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน แบ่งเป็น 2 รอบ
    รอบเช้า 9:00-15:00 น. และรอบบ่าย 16:00-21:00 น.
    รอบภาษาอังกฤษมีเฉพาะวันพุธ (เวลาเปิดปิดเปลี่ยนแปลงบ่อย เช็คที่หน้า Website ก่อนไปทุกครั้ง)

  • TeamLab Forest (BOSS E・ZO FUKUOKA 5F, Fukuoka)
    ที่เมืองฟุกุโอกะ นอกจากสถานที่ตามธรรมชาติแล้ว ยังมีอีกหนึ่งที่เที่ยวที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรพลาดในการพาเด็ก ๆ มา เพราะนอกจากจะได้รูปสวย ๆ แล้ว ยังได้ทั้งความสนุกและความรู้ผ่านทางกิจกรรมของที่นี่ ซึ่งที่นี่คือพิพิธภัณฑ์ศิลปะดิจิทัลที่ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมได้ โดยจุดเด่นของที่นี่คือส่วนที่เรียกว่า “ป่าแห่งการรวบรวม” ซึ่งเป็นงานศิลปะแบบอินเทอร์แอคทีฟ ที่มีคอนเซ็ปต์คือ “จับ สังเกต และปล่อย” ซึ่งเราสามารถใช้แอปพลิเคชันในโทรศัพท์มือถือ จับสัตว์ต่าง ๆ ที่พบเจอและแสดงข้อมูลของสัตว์ตัวนั้น ๆ ซึ่งสัตว์ที่มีให้จับก็มีมากมายหลากหลายประเภท ทั้งสัตว์บก สัตว์น้ำ และสัตว์ปีกเลยทีเดียว
    ค่าเข้าชม: 800 – 2,200 เยน (เด็กต่ำกว่า 4 ปีเข้าฟรี)
    เวลาเปิด-ปิด:
    วันธรรมดา 11:00 - 20:00 น.
    วันหยุด 10:00 - 20:00 น.
 
TeamLab Forest
เครดิตรูป www.teamlab.art

Item เด็ดยุคนี้ ที่คนไปเที่ยวญี่ปุ่นต้องมี

เที่ยวญี่ปุ่นเทรนด์ใหม่ ไม่มีบัตรนี้ได้ไง

เที่ยวญี่ปุ่นยุคนี้ไม่ต้องพกเงินสดมาก ใช้ Krungsri Boarding Card ใบเดียวจบไม่ต้องกังวลว่าเงินจะหมดอีกต่อไป เงินไม่พอก็แลกเพิ่มได้ตลอดแถมได้เรทถูกจริงผ่าน KMA krungsri app ได้ทุกเมื่อ หรือต้องใช้เงินสดก็กดได้ที่ตู้ ATM นอกจากนี้ใช้จ่ายผ่านบัตรยังไม่มีชาร์จ 2.5% อีกด้วย แต่หากกลัวช็อปเพลินก็สามารถปรับเปลี่ยนวงเงินใช้จ่ายได้ตลอดเวลา พร้อมเสริมความปลอดภัยหากบัตรหายสามารถอายัดบัตรผ่านแอปได้เลยทันที สมัครง่ายผ่าน KMA krungsri app รอรับบัตรได้ภายใน 7 วัน สมัครวันนี้รับสิทธิพิเศษมากมาย แถมฟรีค่าธรรมเนียมสมัครบัตรอีกด้วย
 

เที่ยวญี่ปุ่น อุ่นใจ ไร้กังวล เมื่อมี Item นี้ติดตัว

ท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจตลอดทริปเมื่อมี กรุงศรีประกันเดินทาง Simple Sure ที่คุ้มครองคุณทั้ง ก่อน ระหว่าง และหลังเดินทาง
  • ก่อนเดินทาง ประกันดูแลถ้าบริษัททัวร์โกง
  • ระหว่างเดินทาง เจ็บป่วย อุบัติเหตุ ประกันดูแลค่าใช้จ่ายพร้อมมีผู้ช่วยประสานงานด้านภาษา
  • หลังเดินทาง ประกันชดเชยให้ถ้าทรัพย์สินในบ้านสูญเสีย/เสียหายระหว่างทริป
คุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท เบี้ยถูกเริ่มต้นเพียง 250 บาท สมัครง่ายคุ้มครองทันที สมัครได้เลยที่นี่
มาถึงตรงนี้แล้วเชื่อว่าหลายครอบครัวคงได้ไอเดียวางแผนพาลูกเที่ยวกับสถานที่ใหม่ ๆ รับรองว่าการเดินทางไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนี้ถูกใจทั้งครอบครัวแน่นอน คุณลูกได้เจอประสบการณ์ใหม่ ๆ สุดว้าว ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็ใจฟูเพราะลูกได้เที่ยวอย่างฟิน ๆ แถมได้กิน เที่ยว ช็อปแบบคุ้ม ๆ อีกด้วย
pym logo
ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
บทความที่เกี่ยวข้อง
พิมพ์สิ่งที่ต้องการค้นหา