KRUNGSRI EXCLUSIVE
 

เที่ยววัด

สวย 4 ภาค


คอลัมน์นี้ ถือโอกาสพาทุกท่านชมวัดทั่วไทยทั้ง 4 ภาค ที่เปี่ยมไปด้วยความสวยงามทางสถาปัตยกรรมและความศักดิ์สิทธิ์ เข้าวัด ทำบุญ ทำจิตใจให้ผ่องใสโดยทั่วกัน
เที่ยววัด


ภาคเหนือ

วัดร่องเสือเต้น จังหวัดเชียงราย

จังหวัดเชียงรายนั้นมีวัดสวยที่เป็นศูนย์รวมจิตใจพุทธศาสนิกชนมากมาย หนึ่งในนั้น คือ วัดร่องเสือเต้น ที่งดงามโดดเด่นด้วยสถาปัตยกรรมโทนสีน้ำเงิน-ทอง สร้างสรรค์ขึ้นจากฝีมือของ พุทธา กาบแก้ว หรือ สล่านก ศิลปินท้องถิ่นชาวเชียงราย เดิมสล่านกเคยเป็นลูกมือของอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ในการสร้างวัดร่องขุ่น เมื่อมีโอกาสได้แสดงฝีมือที่วัดร่องเสือเต้น จึงนำการออกแบบพุทธศิลป์แนวร่วมสมัยมาประยุกต์ใช้ แต่ละรายละเอียดแฝงคติธรรมจากศาสนาพุทธ ประกอบกับการเลือกใช้ลายเส้นและสีสันที่สดใสงดงาม จุดเด่นก่อนเข้าไปชมวัดอยู่ที่พญานาคคู่ด้านหน้าวิหารที่นำรูปแบบงานศิลปะของ อาจารย์ถวัลย์ ดัชนี มาเป็นแรงบันดาลใจแลดูงดงามและน่าเกรงขามทุกองค์ประกอบ ด้านในวิหารประดิษฐานพระพุทธรัชมงคลบดีตรีโลกนาถ พระประธานสีขาวมุก ขนาดหน้าตักกว้าง 5 เมตรสูง 6.5 เมตร บริเวณพระเศียรบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ส่วนใต้ฐานองค์พระนั้นบรรจุพระรอดลำพูน จำนวน 88,000 องค์ ตลอดจนแก้วแหวนเงินทองถัดมาจากวิหารคือ "พระธาตุเกศแก้วจุฬามณีห้าพระองค์" เจดีย์สีน้ำเงินทองความสูง 20 เมตร โดยยอดขององค์พระธาตุได้บรรจุพระบรมสาริกธาตุ จากสมเด็จพระญาณสังวรสมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก ด้วยองค์ประกอบทั้งหลายที่กล่าวมา ไม่แปลกที่ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างเข้ามากราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดเพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดทั้งปี

วัดร่องเสือเต้น ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านร่องเสือเต้น ต.ริมกก อ.เมือง จ.เชียงราย
 
เที่ยววัด


ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

วัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา

หากกล่าวถึงวัดบ้านไร่ คงต้องนึกถึง พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณปริสุทโธ พระเกจิอาจารย์แห่งโคราช วัดบ้านไร่นั้นมีขึ้นตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จวบจนหลวงพ่อคูณเป็นเจ้าอาวาส จึงได้พัฒนาวัดและเพิ่มศาสนอาคารต่างๆ ขึ้นมาอีกมากมาย ตามแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน หนึ่งในอาคารที่โดดเด่นของวัดคือ หอเทพวิทยาคมอุทยานธรรมกลางบึงน้ำขนาดใหญ่ ที่ก่อสร้างขึ้นตามเจตนารมณ์ของหลวงพ่อคูณ ที่ต้องการให้เป็นมหาวิหารแห่งพระไตรปิฎก รวบรวมพุทธประวัติ พระวินัย และพระธรรมคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ทรงแสดงไว้ เพื่อให้ความรู้แก่ประชาชนทั่วไปสิ่งน่าสนใจ ได้แก่ เริ่มจากสะพานพญานาค ที่เปรียบเหมือนเป็นสะพานที่เดินข้ามผ่านโลกมนุษย์สู่โลกแห่งธรรม ทั้งสี่ทิศมีซุ้มประตูบารมี ได้แก่ ซุ้มพระอินทร์ ซุ้มพระยม ซุ้มพระพิรุณ และซุ้มพระกุเวร (ท้าวเวสสุวรรณ) เสารอบอาคารทุกต้นแสดงภพชาติที่พระพุทธเจ้าถือกำเนิดทั้ง 523 ชาติไว้ ส่วนผนังรอบนอกนำเสนอจิตรกรรมฝาผนังเรื่อง ทศชาติชาดก เป็นจิตรกรรมเขียนสีแผ่นเซรามิก นอกจากนี้หอเทพวิทยาคมยังประดับด้วยโมเสกมากกว่า 20 ล้านชิ้น หากมีโอกาสควรหาเวลาไปเยือนสักครั้ง ภายในวัดยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกแห่ง คือ พิพิธภัณฑ์หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ นำเสนอเรื่องราวชีวประวัติของหลวงพ่อคูณตั้งแต่เยาว์วัยการอุปสมบทเป็นพระภิกษุ วัตรปฏิบัติในสมณเพศที่ถือสันโดษและเป็นพระนักพัฒนา

วัดบ้้านไร่่ ตั้งอยู่ที่ ถนนด่านขุนทด-คำปิง ตำบลกุดพิมาน อำเภอด่านขุนทด จังหวัดนครราชสีมา
เที่ยววัด
เที่ยววัด
เที่ยววัด
เที่ยววัด


ภาคตะวันออก

วัดปากน้ำแขมหนู จังหวัดจันทบุรี

อาจกล่าวได้ว่าโบสถ์สีขาว-น้ำเงิน ที่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นบริเวณปากน้ำแขมหนูู ริมฝั่งทะเลของจังหวัดจันทบุรีนั้นคือความสวยงามที่มาพร้อมกับการคำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยอย่างดี เดิมทีวัดปากน้ำแขมหนูนั้นเป็นเพียงที่พักสงฆ์ ก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2456 จนเริ่มมีพระสงฆ์มาจำพรรษาในปีต่อมาและขยับขยายก่อสร้างพระอุโบสถตามแบบมาตรฐาน เป็นที่เคารพสักการะบูชาของชาวบ้านในละแวกนั้น ผ่านมาหลายสิบปีโบสถ์หลังเดิมเริ่มชำรุดทรุุดโทรมตามกาลเวลาราวปี พ.ศ. 2534 ทางวัดจึงมีมติร่วมกับชาวบ้านรื้อโบสถ์หลังเดิมลงเพื่อสร้างใหม่ โดยตั้งใจออกแบบเหมาะกับสภาพอากาศมากยิ่งขึ้นด้วยเหตุที่วัดปากน้ำแขมหนูนั้นตั้งอยู่ริมทะเล มีพื้นที่ติดน้ำเค็มพระอุโบสถที่สร้างมาจึงค่อนข้างเสื่อมโทรมเร็ว ดังนั้นทางวัดจึงมีแนวทางในการออกแบบว่าพระอุโบสถหลังใหม่นี้ควรจะต้องแข็งแรงคงทน ในขณะเดียวกันก็ต้องคงความสวยงามอันเป็นเอกลักษณ์ด้วยจึงตัดสินใจเลือกใช้กระเบื้องเซรามิกมาประดับพื้นผิว และเคลือบชั้นปูนทั้งหมด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องทาสีซ้ำบ่อยๆ ประกอบกับเลือกใช้กระเบื้องสีน้ำเงิน ให้คล้ายกับเครื่องลายครามตัดกับพื้นที่ขาวทำให้เกิดความสวยงามและกลายเป็นโบสถ์ที่โดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ด้วยเหตุนี้นอกจากจะเป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน วัดปากน้ำแขมหนูยังกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอันซีนของจังหวัดจันทบุรีอีกด้วย

วัดปากน้ำแขมหนู ตั้งอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีราว 28 กิโลเมตร อยู่ใกล้กับหาดเจ้าหลาว
เที่ยววัด
เที่ยววัด
เที่ยววัด
เที่ยววัด


ภาคใต้

วัดไชยธาราราม จังหวัดภูเก็ต

วัดไชยธาราราม หรือ วัดฉลอง นั้นเป็นวัดเก่าแก่อายุนับร้อยปี ที่ถือเป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดภูเก็ต สืบเนื่องจากหลวงพ่อแช่ม พระเกจิชื่อดังที่ชาวภูเก็ตและพุทธศาสนิกชนให้ความนับถือ และเคารพศรัทธาในบุญบารมีของท่านเกี่ยวกับเรื่องการรักษาโรค เนื่องจากท่านเป็นพระที่มีวิชาในด้านการปรุงยาสมุนไพร และรักษาโรค นอกจากนี้ในช่วงที่เกิดกบฏอั้งยี่ ตอนปลายรัชกาลที่ 4 หลวงพ่อแช่มได้เป็นศูนย์รวมศรัทธาของชาวเมืองร่วมมือกันปราบอั้งยี่ได้สำเร็จเมื่อถึงรัชสมัยรัชกาลที่ 5 จึงได้ พระราชทานสมฌศักดิ์หลวงพ่อแช่มเป็นพระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญานมุนี และพระราชทานนามวัดฉลองเป็นวัดไชยธาราราม ภายในวัดฉลอง มีศาสนอาคารที่สำคัญได้แก่พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานของพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าที่อัญเชิญมาจากศรีลังกานอกจากนี้ยังมี กุฎิ จำลองของหลวงพ่อแช่ม ภายในกุฎิ จำลองทรงไทยได้จัดทำหุ่นขี้ผึ้งจำลอง หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง หลวงพ่อเกลี้อม และเครื่องใช้ต่าง ๆ ของทั้งสามองค์

วัดฉลอง ตั้งอยู่ที่ ถนนเจ้าฟ้าตะวันตก ตำบลฉลอง อำเภอเมืองภูเก็ต
© 2565 ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)