สูตรลับ จัดการหนี้ ไม่ให้กระทบเงินออม

0 Share
0
สูตรลับ จัดการหนี้ ไม่ให้กระทบเงินออมสูตรลับ จัดการหนี้ ไม่ให้กระทบเงินออมสูตรลับ จัดการหนี้ ไม่ให้กระทบเงินออมสูตรลับ จัดการหนี้ ไม่ให้กระทบเงินออม
ทุกวันนี้ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ก็เจอแต่สิ่งล่อใจให้เงินวิ่งออกจากกระเป๋าของเราทั้งนั้น ร้านค้าก็ขยันออกโปรโมชั่นมาอย่างไม่หยุดหย่อน ไหนจะโปรลด 50%  ไหนจะโปรผ่อน 0% 10 เดือนอีก บางคนควบคุมความอยากตัวเองไม่ได้ บริหารเงินไม่เป็น จนต้องกระทบเงินที่เอาไว้ใช้จ่ายในแต่ละวัน ลามไปถึงเงินออมที่แทนจะได้ออมให้งอกเงย กลับต้องเอามาชำระหนี้สินแทน

ถ้าใครพลาดไป และต้องการกำจัดหนี้สินที่เกิดขึ้นให้หมดไปโดยเร็วที่สุด สิ่งแรกที่ต้องหยุดเลย คือ การเพิ่มหนี้ บางคนมีวิธีชำระหนี้ด้วยการกู้เงินมาเพื่อจ่ายหนี้ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ และทำให้เราต้องเป็นหนี้โดยไม่รู้จบ หยุดความคิดแบบเดิมๆ และเริ่มต้นใหม่ด้วยวิธีดังนี้
 
1. แจกแจงหนี้ ทั้งหนี้บัตรเครดิต หนี้บัตรกดเงินสด หนี้ผ่อนบ้าน หรือหนี้ผ่อนรถ
ทำเป็นตาราง ใส่ประเภทหนี้ ยอดหนี้รวม อัตราดอกเบี้ย และยอดที่ต้องจ่ายต่อเดือน รวมถึงวันครบกำหนดชำระของหนี้แต่ละก้อน เริ่มต้นด้วยวิธีนี้ จะทำให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่า ภาระหนี้เราในแต่ละเดือน รวมๆ แล้วเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ ยอดไหนต้องชำระวันที่เท่าไร  ทำให้เราบริหารจัดการเงินได้ง่ายขึ้น

 
ประเภทหนี้ ยอดหนี้รวม อัตราดอกเบี้ย ยอดต้องจ่ายต่อเดือน วันครบกำหนดชำระ
หนี้บ้าน 2,000,000 5% 14,000 วันที่ 27 ของทุกเดือน
หนี้รถยนต์ 590,000 2.7% 8,370 วันที่ 25 ของทุกเดือน
หนี้ผ่อนโทรศัพท์ 22,000 0% 2,200 วันที่ 1 ของทุกเดือน

2. ดูรายรับต่อเดือน และคำนวณงบสำหรับรายจ่ายส่วนตัวแต่ละเดือน
นำรายได้ - หนี้สิน(ต่อเดือน)  - (เงินออม) = งบสำหรับรายจ่ายส่วนตัวแต่ละเดือน ถ้าดูแล้วรายจ่ายแต่ละเดือนยังอยู่ในระดับที่เรายังใช้จ่ายเพียงพอและพอเหลือใช้อยู่บ้าง อย่าลืมหักเงินซักนิด มาออมไว้ เพื่อเป็นเงินฉุกเฉิน หากโชคร้ายมีเหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับเรา ก็ยังสามารถชำระหนี้ และใช้จ่ายในแต่ละเดือนได้โดยไม่ต้องกังวล แต่ถ้าหนี้สินเยอะมาก จนเงินไม่พอใช้ สิ่งที่ควรทำ คือ ลองหาทางเพิ่มรายรับ หาวิธีลดรายจ่ายส่วนตัว เช่น ลดรายจ่ายฟุ่มเฟือย หรือสิ่งที่ไม่จำเป็นลงบ้าง  และหาทางลดหนี้โดยด่วน เช่น หาทาง Refinance เพื่อลดภาระดอกเบี้ย เป็นต้น
 
3. เริ่มหาทางจัดการหนี้อย่างเป็นระบบหรือลดหนี้
ให้จัดลำดับความสำคัญของหนี้ คือ เรียงลำดับจากหนี้ที่ดอกเบี้ยมากสุดไปน้อยสุด
เลือกชำระหนี้ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ และก้อนใหญ่ๆ ก่อน  เพื่อกำจัดดอกเบี้ยก้อนใหญ่ให้เร็วที่สุด
ในขณะที่หนี้อื่นๆ ที่มียอดน้อยๆ ก็ไม่ควรผิดนัดชำระหนี้ เพื่อไม่ให้เสียเครดิตตัวเอง และง่ายต่อการกู้ครั้งต่อไปในอนาคต หากมีเหตุจำเป็นจริงๆ

แต่ถ้าคำนวณแล้ว ยังไงก็ไม่พอจ่าย ให้เริ่มทำการประนอมหนี้ คุยกับเจ้าหนี้แต่ละราย เพื่อขอปรับลดดอกเบี้ย ขอขยายระยะเวลาผ่อนชำระหนี้ หรือขอปรับลดเงินผ่อนชำระต่องวดแทน

ถ้าสามารถเจรจาขอ Refinance อาจใช้วิธีรวมยอดหนี้  โดยขอกู้เงินก้อนมาปิดหนี้ที่ดอกเบี้ยสูงๆ ออกไปก่อน แล้วค่อยทยอยผ่อนชำระหนี้ที่เหลือ เพื่อลดภาระจากดอกเบี้ย หรือ อาจใช้วิธีลดค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนลงมา แล้วนำเงินส่วนนั้นไปช่วยโปะยอดหนี้ที่มีอยู่ก็เป็นได้

อาจจะต้องอดทนซักหน่อยในช่วงเวลาหนึ่ง สิ่งสำคัญที่สุด คือ ให้หยุดการก่อหนี้ที่ไม่จำเป็น ตั้งใจชำระหนี้อย่างมีวินัยและตรงเวลา เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายอีกในอนาคต

4. ทบทวนตัวเอง
พอเรารู้วิธีที่จะจัดการหนี้ได้แล้ว ให้ลองย้อนกลับมาดูสาเหตุของปัญหาอีกทีว่า หนี้ของตัวเองเกิดจากสาเหตุอะไรกันแน่ เป็นหนี้ที่เกิดจากค่าใช้จ่ายจำเป็นหรือเป็นหนี้ที่เกิดจากกิเลส

- หนี้ที่เป็นค่าใช้จ่ายจำเป็น (ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ หรือค่าผ่อนประกันรถยนต์)
ถ้าเป็นหนี้ประเภทนี้ ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ก้อนใหญ่ยังไงก็ควรควบคุมไม่ให้เกิน 40% ของรายได้ต่อเดือน จะได้มีเงินเพียงพอสำหรับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อาจใช้วิธีเพิ่มเติมที่สามารถลดหนี้ส่วนนี้ได้บ้าง เช่น ศึกษาการรีไฟแนนซ์ในกรณีผ่อนบ้าน หรือโปะเงินก้อนเพื่อลดเงินต้น หรือกรณีผ่อนรถไม่ไหวจริงๆ อาจเจรจากับไฟแนนซ์เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ แต่ต้องแลกกับดอกเบี้ยที่สูงขึ้น

- หนี้ที่เกิดจากความอยากได้ อยากมี (ค่าผ่อนโทรศัพท์มือถือ, ค่าผ่อนกล้อง, ค่าผ่อนกระเป๋าแบรนด์เนม)
หนี้ตัวนี้แหละตัวดี เป็นหนี้ที่เกิดจากความอยากมี อยากได้ และใช้จ่ายโดยไม่ยั้งคิด หนทางในการแก้ไขในหนี้ประเภทนี้ คือ แก้ไขที่ตัวเราเอง ก่อนอื่นต้องตัดใจไม่ก่อหนี้เพิ่ม เพื่อสนองความอยากที่เกินความพอดี และหารายได้เพิ่มเติมตามความสามารถของตัวเอง เริ่มหาวิธีจัดการรายรับ-รายจ่ายในสไตล์ของเราเอง ซึ่งเดี๋ยวนี้มีแอปพลิเคชั่นที่สามารถช่วยให้การจดรายรับ-รายจ่ายนั้นง่ายขึ้นมากมายเลยทีเดียว เราจะเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าเงินที่เหลือแต่ละเดือนเป็นจำนวนเท่าไหร่
 
เมื่อเข้าใจถึงสาเหตุของปัญหาและรู้จักวิธีจัดการหนี้อย่างเป็นระบบ  เราก็จะมีความหวังที่จะปลดหนี้ได้มากขึ้น ที่เหลือคือ เปลี่ยนแปลงตัวเอง วางแผนจัดการหนี้อย่างเป็นระบบและมีวินัย เพื่อเป็นคนที่ฉลาดคิด ฉลาดใช้ และควบคุมหนี้ได้อย่างอยู่หมัด มีเงินเหลือใช้ เหลือออม หากทำได้แล้ว ชีวิตดีๆ ที่ทุกคนมองหา ก็อยู่ไม่ไกลอย่างแน่นอน
 
< ย้อนกลับ