“อาชีพที่ง่ายที่สุดคือมนุษย์เงินเดือน ทำงานไปเถอะ จะเสร็จไม่เสร็จสิ้นเดือนก็ได้เงินอยู่ดี”
คำพูดนี้เป็นเหมือนหอกทิ่มแทงใจใครต่อหลายคน เพราะทุกครั้งที่สิ้นเดือนก็เหมือนจะสิ้นใจ เงินที่เข้ามามากแค่ไหนก็ออกไปจนเกือบหมดอยู่ดี ด้วยหนี้ ค่าใช้จ่าย ภาระ และความจำเป็นต่างๆ ที่แตกต่างกันไป
เชื่อว่าหลายคนคงเห็นตัวอย่างแบบนี้มาไม่น้อย ทั้งเรื่องเล่าของคนมีรายได้หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน แต่กลับไม่สามารถจัดการการเงินได้ตามที่หวังไว้ ทั้งยังมีปัญหามากกว่าคนธรรมดาที่มีรายได้แบบหาเช้ากินค่ำเสียอีก
เหตุผลง่าย ๆ ก็เพราะ คนพวกนี้ใช้เงินไม่เป็น ไม่ได้ใส่ใจที่จะวางแผนการเงินมาตั้งแต่ต้น เหมือนกับคนที่กลัดกระดุมเม็ดแรกผิดไป ชีวิตก็เปลี่ยนไปทันที ถึงจะมีรายได้เพิ่มแค่ไหน แต่สิ่งที่มีให้ใช้นั้นก็มากกว่าเสมอ
แล้วทำไมเราต้องหัดใช้เงินให้เป็น ?
เราจะมีความสุขกับชีวิตโดยที่ไม่ต้องคิดแต่เรื่องเงินไม่ได้เลยเหรอ? หลายคนคงเกิดคำถามนี้ขึ้นในใจ ก็ต้องบอกไปตรงๆ จากใจเลยว่า “ไม่ได้” เพราะว่าการหัดใช้เงินให้เป็น หัดวางแผนการเงินนั้นไม่ได้หมายถึงแค่การประหยัดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้อย่างเดียว แต่มันคือการวางแผนชีวิตเพื่อให้เรามีเงินพอใช้ สามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิต ทำตามความฝันได้สำเร็จ และอยู่ได้จนวาระสุดท้ายของชีวิตครับ
การวางแผนการเงินนั้นมีตั้งแต่การวางแผนค่าใช้จ่าย การออมเงิน ลงทุน ป้องกันความเสี่ยง จัดการภาษี วางแผนการเงินให้สามารถทำตามความฝันทั้งระยะสั้นและระยะยาวให้สำเร็จ ไปจนถึงวางแผนเกษียณเลยทีเดียว ดังนั้น เราจะมาทำเป็นเรื่องเล่นๆ ไม่ได้ เพราะว่าทั้งหมดนี้คือองค์ประกอบของการมีชีวิตที่ดี ที่มีเงินเป็นส่วนประกอบครับ พูดง่าย ๆ ก็คือ เราจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ มีอิสระที่จะทำตามความฝันอย่างที่ใจต้องการได้ เราต้องรู้จักใช้เงินให้เป็นก่อน
โดยเฉพาะมนุษย์เงินเดือนที่มีรายได้เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี การใช้จ่ายก็มักจะมีโอกาสเพิ่มตามมาโดยที่ไม่รู้ตัว ตั้งแต่เงินเฟ้อที่เพิ่ม รสนิยมที่เปลี่ยนไป และภาระต่างๆ ที่เข้ามาในแต่ละช่วงวัยก็ทำให้เรารู้สึกว่า เมื่อก่อนทำไมตอนที่มีเงินน้อยมันยังสบายกว่านี้อีกนะ
สิ่งที่อยากจะเริ่มต้นแนะนำแบบง่ายๆ นั่นคือการวางแผนจัดการการเงิน โดยเฉพาะค่าใช้จ่าย ซึ่งสิ่งที่จะบอกได้ว่าการใช้จ่ายเราเป็นอย่างไร เรื่องไหนสำคัญไม่สำคัญบ้าง คำตอบนั้นจะอยู่ในการจดบันทึกรายรับรายจ่ายครับ ต้องหัดเอาไว้ เพราะ
บันทึกรายรับรายจ่ายนี้จะเป็นหลักฐานชั้นดีที่จะทำให้เรารู้ว่าตัวเองมีพฤติกรรมการใช้เงินอย่างไร และต้องแก้ไขตรงไหนบ้าง
ถ้าทำได้จนเป็นนิสัย เราจะรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน ใช้จ่ายเกินตัวหรือไม่ มีหนี้สินที่กลายเป็นหนี้เสีย จนเสียสภาพคล่อง เสียเครดิตหรือเปล่า พอรู้ตัวแล้ว ก็ต้องมองหาวิธีปรับปรุงแก้ไข ด้วยการมองไปข้างหน้า อาจจะเริ่มจากการกำหนดงบประมาณในการใช้จ่ายในแต่ละวันกันไปเลย ว่าแต่ละวัน แต่ละเดือน ใช้จ่ายได้ไม่เกินเท่าไร ส่วนคนที่ไม่มีปัญหาก็มองผ่านไปที่การเริ่มต้นลงทุนให้เงินงอกเงยมากขึ้น ผ่านช่องทางการลงทุนต่างๆที่น่าสนใจ เช่น หุ้น กองทุนรวม ประกันชีวิต ฯลฯ
เห็นไหมว่า หลักการที่มีไม่ได้ซับซ้อน เพียงแต่เราต้องเริ่มต้นจากการยอมรับและสำรวจตัวเองก่อนว่า เราเป็นแบบไหน และมีช่องโหว่ทางการเงินเรื่องอะไรบ้าง เพื่อให้เราเริ่มต้นใช้เงินเป็นได้อย่างถูกต้องเพื่อมีเส้นทางการเงินที่ดี สามารถทำตามความฝัน บรรลุเป้าหมายในชีวิต และมีชีวิตที่เป็นสุขไปตลอดโดยที่ไม่ต้องมีภาระเรื่องเงินให้ปวดหัวอีกต่อไปครับ