บริหารเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ จัดการเงินให้อยู่หมัด แค่ออมให้ได้ 20%

0 Share
0
บริหารเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ จัดการเงินให้อยู่หมัด แค่ออมให้ได้ 20%25บริหารเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ จัดการเงินให้อยู่หมัด แค่ออมให้ได้ 20%25บริหารเงินสไตล์คนรุ่นใหม่ จัดการเงินให้อยู่หมัด แค่ออมให้ได้ 20%25
Pay Day หน้าตาสดใส แต่พอใกล้สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ… ชีวิตมนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่คงไม่พ้นวงจรนี้  หลายคนพอเงินเดือนออกปุ๊บ ก็สนุกสนานกับใช้จ่ายตาม Lifestyle ของแต่ละคน 
สายกิน ก็ต้องเข้าร้านอาหารสุดหรู ร้านไหนอินเทรนด์ ต้องรีบไปเช็คอิน
สายแฟชั่น เดินสายเข้าห้าง เข้าร้านนู้น ออกร้านนี้ 
สายบิวตี้ เครื่องสำอางออกใหม่ ต้องซื้อมาลอง
สายฮิป ไปนั่งจิบกาแฟที่คาเฟ่เก๋ๆ บรรยากาศชิลล์ๆ
พอถึงกลางเดือน ก็เริ่มสงสัยว่าเงินหายไปไหนหมด แล้วปลายเดือนจะอยู่ยังไงละเนี่ย?
 
ความรู้สึกที่ว่าเหมือนเงินหายนี่แหละ เป็นสัญญาณว่าคุณกำลังมีปัญหาเรื่องการจัดการเงินที่ไม่เป็นระบบ ใช้เงินอย่างขาดความระมัดระวัง สุดท้ายจบตรงที่ปลายเดือนต้องรัดเข็มขัด อดทนรอจนกว่าเงินเดือนเดือนหน้าจะเข้า ที่สำคัญ ไม่มีเงินออมสำรองไว้สำหรับอนาคตข้างหน้า ทำให้ความฝันสวยหรูที่วาดไว้ เหมือนจะลอยห่างออกไปทุกที
 
แทนที่จะมานั่งบ่นท้อใจกับกับดักชีวิตมนุษย์เงินเดือน เราลองลุกขึ้นมาสร้างความฝันในอนาคตที่สวยงามของเราให้เป็นจริง ด้วยการเริ่มบริหารเงินสไตล์คนรุ่นใหม่กันดีกว่า
 
ก่อนอื่น เราต้องมีระบบจัดการเงินที่ดีก่อน ด้วยการตั้งเป้าไว้เลยว่า ต้องออมให้ได้ 20% ของรายได้จะออมให้ได้ตามเป้าหมาย  เราต้องใช้หลักการบริหารเงินแบบ  20-50-30
 

สมมุติว่า เรามีเงินเดือน 15,000 บาท เงินเดือนออกปุ๊บ ให้แบ่งเงินเป็น 3 ส่วน


ส่วนที่ 1 เงินออม 20%
เงินก้อนนี้เป็นเงินที่เราจ่ายให้ตัวเองก่อน 20% ของรายได้ เพื่อเป็นทุนที่เราจะใช้ทำตามความฝันตัวเอง เช่นอยากมีร้านหนังสือเล็กๆ, เปิดร้านกาแฟ หรือเอาไว้ลงทุนสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม เช่น การซื้อกองทุน  หรือเอาไว้เป็นตัวช่วยยามไม่คาดฝัน เกิดอะไรที่ต้องใช้เงินฉุกเฉิน หรือเป็นเงินเก็บระยะยาวถึงตอนเกษียณ
 
สูตรนี้ให้กันไว้ที่ 20% ของรายได้ คือ 20/100 x 15,000 จะอยู่ที่ 3,000 บาทต่อเดือน
เงินเดือนออกปุ๊บ  โอนเข้าบัญชีสานฝันของตัวเองทันทีเลย 3,000 บาท ออมก่อน รวยก่อน ส่วนที่เหลือค่อยเอาไว้ใช้จ่าย

ส่วนที่ 2 ค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการใช้ชีวิต 50% 
เช่น ค่าเช่าบ้าน , ค่าอาหาร , ค่าเดินทาง , ค่าเสื้อผ้า
สิ่งที่เราขาดแล้วจะดำเนินชีวิตไม่ได้ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ‘ปัจจัย 4’ ก็ได้
 
ควรให้ส่วนแบ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้เยอะหน่อยอยู่ที่ 50% ของเงินเดือน
ลองคำนวณดู 0.5 x 15,000 กดเครื่องคิดเลขออกมา ได้ค่าใช้จ่ายก้อนนี้อยู่ที่ 7,500 บาท
เงินเดือนออกปุ๊บ หลังหักเงินออมแล้ว  ให้กันเงินส่วนนี้ไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นเลย จะได้ไม่มีปัญหาเงินไม่พอใช้ตอนปลายเดือน

ส่วนที่ 3 ความอยาก ความสุขส่วนตัว 30% 
ค่าใช้จ่ายในการไปเที่ยว , กินบุฟเฟต์เค้ก , ทำสีผมใหม่ , รองเท้า Sneakers
ไม่ทำสีผมใหม่ เราก็ดำเนินชีวิตต่อได้ใช่ไหม (แม้ว่าสาวๆ หลายคนจะกรีดร้องในใจว่าไม่ได้)
หรือ ไม่มี Sneakers คู่นี้เราก็ยังมีชีวิตรอดอยู่ (ในใจหนุ่มๆ คงร้องว่าไม่ได้เช่นกัน)
เราก็จะเรียกเงินก้อนนี้ว่า ‘ก้อนกิเลส’
 
เงินส่วนนี้ ให้แบ่งส่วนไว้ 30% ของเงินเดือน 0.3 x 15,000 = 4,500 บาท
เงินก้อนนี้ เอาไว้ใช้จ่ายเพื่อความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ เป็นกำลังใจให้ตัวเอง แต่ถ้าเดือนไหน เรามีค่าใช้จ่ายจำเป็นฉุกเฉินเพิ่มขึ้น ก็อาจลดส่วนของเงินก้อนนี้ได้ หรือถ้าเดือนไหนเงินส่วนนี้เหลือก็สามารถเอาไปสมทบกับก้อนของเงินออมก็ได้

เห็นไหมว่า แค่บริหารเงินง่าย ๆ ด้วยการการออมเงินให้ได้ 20% ของรายได้  ชีวิตของเราก็จะเป็นระบบมากขึ้น เรามีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน มีเงินไว้ตอบสนองความสุขส่วนตัวของเรา และมีเงินออมที่จะเก็บไว้ใช้ในอนาคตได้อีก
ใครจะรู้ว่าอนาคตเราจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพียงเรารู้จัก ฉลาดคิด ฉลาดใช้ ออมให้ได้ 20%  อนาคตที่สดใสก็ไม่ไกลเกินเอื้อมแล้ว
< ย้อนกลับ